“WHAUP” ไตรมาสแรกกำไรสุทธิ 716 ล้านบาท เติบโต 162% จากงวดเดียวกันของปีก่อน กวาดรายได้ธุรกิจน้ำเพิ่มขึ้น รับรู้ส่วนแบ่งกำไรธุรกิจพลังงานพุ่ง 163% เตรียมลงทุนธุรกิจน้ำในเวียดนามเสริมความแข็งแกร่งทางธุรกิจ
นายวิเศษ จูงวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ (WHAUP) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2561 สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มี.ค.2561 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและการให้บริการ (ธุรกิจน้ำ) 422.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.8% ในขณะที่บริษัทฯได้มีการบริหารจัดการต้นทุนขายและการให้บริการที่ดีขึ้น ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นจาก 31.6% เป็น 35.1% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุน (ธุรกิจพลังงาน) 659.2 ล้านบาท ส่งผลให้มีกำไรสุทธิส่วนที่บริษัทเป็นเจ้าของ 716.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 443.7 ล้านบาท หรือคิดเป็น 162.8% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน
สาเหตุการเติบโตเพิ่มขึ้นของผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/2561 เนื่องจากรายได้ธุรกิจน้ำเพิ่มขึ้นจากความต้องการใช้น้ำที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของลูกค้า รวมถึงการเปิดดำเนินการผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ของโรงไฟฟ้า SPP เต็มไตรมาสครบ 5 โครงการ อาทิ โครงการโรงไฟฟ้า กัลฟ์ วีทีพี โครงการโรงไฟฟ้า กัลฟ์ ทีเอส 1 โครงการโรงไฟฟ้า กัลฟ์ ทีเอส 2 โครงการโรงไฟฟ้า กัลฟ์ ทีเอส 3 และโครงการโรงไฟฟ้า กัลฟ์ ทีเอส 4 ส่งผลให้กำลังการผลิตติดตั้งรวมของโรงไฟฟ้าตามสัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทฯอยู่ที่ 509.6 เมกะวัตต์ อีกทั้งโครงการโรงไฟฟ้า Gheco One ได้เดินเครื่องเต็มกำลังทั้งไตรมาสในปีนี้ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่ได้มีการหยุดซ่อมบำรุงตามแผนไป 45 วัน
นอกจากนี้ ทางที่ประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปี ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 27 เม.ย.2561 ได้มีมติผู้ให้บริษัทฯ ออกหุ้นกู้วงเงินไม่เกิน 8,000 ล้านบาท เพื่อนำเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการพัฒนาโครงการในอนาคต และชำระหนี้เงินกู้บางส่วน ซึ่งจะช่วยลดอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยของทางบริษัทฯ
สำหรับภาพรวมธุรกิจในไตรมาส 2/2561 บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขยายการลงทุนตามแผนงานที่วางไว้ โดยเฉพาะโครงการสาธารณูปโภคในประเทศเวียดนาม ซึ่งบริษัทฯได้สิทธิในการดำเนินธุรกิจสาธารณูปโภคด้านน้ำ และการเช่าพื้นที่ในเขตอุตสาหกรรม ดับบลิวเอชเอ เหมราช อินดัสเตรียล โซน เหงะอาน ส่วนโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา อาทิ โครงการ Solar Rooftop ซึ่งจะใช้พื้นที่คลังสินค้า และอาคารในนิคมอุตสาหกรรมของ WHA Group ประมาณ 2 ล้านตารางเมตร หรือคิดเป็น 200 เมกะวัตต์ โครงการให้บริการระบบท่อก๊าซในนิคมฯ โครงการการบำบัดน้ำเสียให้เป็นน้ำอุตสาหกรรม และโครงการการก่อสร้างโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม คาดว่าจะแล้วเสร็จ และทยอยเปิดดำเนินการในช่วงปลายปี 2561-2562