“สิงห์ เอสเตท” กำไรไตรมาสแรก 252 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 651% เทียบกับปีก่อน โดยเป็นการกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน ขณะที่รายได้รวมลดลง 7% ยันเดินหน้าซื้อกิจการต่อเนื่อง
บริษัท สิงห์ เอสเตท (S) แจ้งผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2561 โดยระบุว่า บริษัทมีรายได้รวม 1,123 ล้านบาท ลดลง 7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 1,202 ล้านบาท โดยรายได้ที่ลดลงมาจากชะลอตัวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพักอาศัยที่ลดลง 25% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่รายได้จากธุรกิจโรงแรมเพิ่มขึ้น 9% รายได้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้าเพิ่มขึ้น 9% ส่วนรายได้ธุรกิจก่อสร้างและธุรกิจอื่นๆเพิ่มขึ้นเท่ากันที่ 101%
ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 252 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 651% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 34 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน แต่หากเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2560 ซึ่งมีกำไรอยู่ที่ 654 ล้านบาท จะเห็นว่ากำไรสุทธิลดลง 62% เนื่องจากไตรมาสดังกล่าวมีการรับรู้รายได้ค่าเช่ารับล่วงหน้าพื้นที่สำนักงานในโครงการ สิงห์ คอมเพล็กซ์
สำหรับสัดส่วนรายได้ในช่วงไตรมาสแรก S พบว่ามาจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพักอาศัยมีคิดเป็น 44% ของรายได้รวม รายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้า 34% ของรายได้รวม และปีนี้บริษัทมีแผนขยายธุรกิจต่อเนื่องผ่านการเข้าซื้อกิจการ โดยแหล่งเงินจะมาจากเงินกู้ระยะสั้นจากธนาคาร จากนั้นภาระหนี้ดังกล่าวจะถูกแปลงสภาพหรือชำระคืนเป็นเงินกู้ระยะยาว หลังจากการเข้าซื้อกิจการเสร็จสิ้นแล้ว