4 นักวิเคราะห์แจกโผหุ้น AMATA-STEC เข้าวิน

HoonSmart.com>>ไตรมาส 2 เลือกหุ้นถูกตัวได้กำไรชัวร์ 4 นักวิเคราะห์แจกรายชื่อหุ้นเด่น ภายใต้ธีมแตกต่างกัน “โนมูระ พัฒนสิน” ให้ทุ่มลงทุนเกือบเต็มพอร์ต เน้น MSCI “ธนชาต” แนะเก็งกำไร 4 หุ้นที่นักวิเคราะห์เพิ่มเป้ากำไร “เออีซี” หาจังหวะช้อนหุ้นนิคมอุตสาหกรรม-ขนส่ง “ดีบีเอสฯ” ชอบพื้นฐานดี ไทยพาณิชย์เตือนอย่าชะล่าใจหุ้นโลกสดใส ระวัง Brexit ไว้บ้าง

ในไตรมาส 1 /2562 ตลาดหุ้นไทยให้ผลตอบแทนประมาณ 4.7% แนวโน้มการลงทุนในไตรมาส 2 บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)โนมูระ พัฒนสินให้ทุ่มลงทุนหุ้นสัดส่วน 82.5% ของพอร์ต กลยุทธ์เน้น กลุ่ม MSCI ซึ่งนอกจากมีหุ้นเข้าใหม่ในการคำนวณดัชนีในเดือนพ.ค.จำนวน 4 บริษัท และเพิ่มน้ำหนักอีก 20 บริษัทแล้ว พบว่ามีหุ้นเข้าใหม่ที่มีมาร์เก็ตแคปขนาดเล็ก อีก 7 บริษัทได้แก่ BLA, AEONTS, LHFG, TASCO, EASTW, COL, TIP นอกจากนี้บริษัทที่มีแนวโน้มกำไรดีขึ้น และบริษัทที่ได้ประโยชน์จากการมีรัฐบาลก็น่าสะสมไว้เช่นเดียวกัน

ทางด้าน บล.ธนชาตมองเห็นนักวิเคราะห์ในตลาดหรือ Consensus เริ่มกลับมามีมุมมอง “เชิงบวก”ต่อประมาณการกำไรตลาดบ้างแล้ว โดยปรับเพิ่มกำไรตลาดโดยรวมขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน บวก 0.01% มาจากกลุ่มพลังงานเพิ่มขึ้น 0.1% ธนาคารเพิ่มขึ้น 0.2% แต่การประเมินมูลค่าที่ตึง พี/อี ปีนี้ที่ 14.9 เท่า เทียบกับค่าเฉลี่ย 1 ปีที่ 13.8 เท่าในอดีต ทำให้ดัชนีหุ้นอาจจะปรับตัวขึ้นไม่มากนัก แต่คาดว่าราคาหุ้นมีแนวโน้มตอบรับทางบวก และมีโอกาสปรับขึ้นมากกว่าตลาดจากสถิติที่ผ่านมา ให้ผลตอบแทนสูงกว่า 56% ต่อปี จึงแนะนำเพียง”เก็งกำไร”หุ้น PLANB,PTTEP,MAJOR และ INTUCH

ส่วนบล.เออีซีคาดดัชนีหุ้นยังคงผันผวนสูง หากราคาหุ้นปรับตัวลงเป็นโอกาสการเข้าซื้อใน 3 กลุ่มหลัก กลุ่มนิคมอุตสาหกรรมในเขตอีอีซี คือ AMATA ,WHA กลุ่มขนส่งและโลจิสติกส์แนะนำ BEM , WICE และกลุ่มโรงพยาบาล

บล.ดีบีเอส วิคเคอร์(ประเทศไทย) ในไตรมาส 2 เน้นหุ้นพื้นฐานดีเท่านั้น ได้แก่ AMATA,BBL,ERW,KKP,STEC

การซื้อขายหุ้นวันที่ 2 เม.ย.หุ้นไทยบวกต่อเนื่อง เพิ่มขึ้น 6.84 จุด ดัชนีปิดที่ 1,651.48 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายรวม 41,912 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,241 ล้านบาท และสถาบันไทยซื้อจำนวน 1,039 ล้านบาท หลังจากตลาดหุ้นสำคัญของโลกปรับตัวขึ้นแรง รับข่าวดีการเจรจาการค้าราบรื่น ตัวเลขเศรษฐสหรัฐและจีนดีขึ้น หนุนให้ราคาน้ำมันดิบพุ่งแรง

ธนาคารไทยพาณิชย์ ออกบทวิเคราะห์ว่า ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับเพิ่มขึ้นจากความคาดหวังการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ขณะที่ความเสี่ยงประเด็น Brexit เพิ่มขึ้น หลังสภาของสหราชอาณาจักร ลงมติคว่ำข้อตกลง Brexit ของนายกรัฐมนตรี เมย์ เป็นครั้งที่ 3 ส่งผลให้สามารถขยายระยะเวลาการบังคับใช้ Article 50 ออกไปได้ถึงแค่วันที่ 12 เม.ย.นี้เท่านั้น ขณะที่ตลาดหุ้นจีนปรับเพิ่มขึ้นจากความคาดหวังการเจรจาการค้า และการใช้มาตรการต่างๆ ของรัฐบาลจีนเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจของประเทศ

ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า การประชุมสองสภาประจำปี 2019 จีนประกาศลดเป้าหมายการเติบโตของเศรษฐกิจเหลือ 6.0-6.5% ต่ำที่สุดในรอบเกือบ 30 ปี เชื่อว่าจีนจะสามารถหลีกเลี่ยงภาวะการชะลอตัวอย่างรุนแรงได้ ด้วยการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง พร้อมด้วยเครื่องมือทางการคลังและการเงินที่หลากหลาย แต่ไม่ว่าเศรษฐกิจจีนจะเคลื่อนไหวในทิศทางใด เศรษฐกิจโลกและไทยจะได้รับผลกระทบผ่านการค้า การลงทุนและการท่องเที่ยวอย่างมีนัยสำคัญ

บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยในปี 2562 ลงมาที่ 3.7% จากเดิมคาดโต 4.0% หลังปรับลดคาดการณ์การส่งออกจาก 4.5% เหลือ 3.2% และการนำเข้าจาก 5.3% เหลือ 4.3%