ECF เลื่อนลงทุนเอสเทรค งบไม่ชัด-ที่ปรึกษาชี้ยังไม่เหมาะสม

HoonSmart.com>>อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทคเลื่อนลงทุนซื้อหุ้น เอสเทรค หลังพบว่างบการเงินยังไม่เป็นไปตามมาตรฐานบัญชี และไอ วี โกลบอล ที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ เสนอความเห็นว่า การเข้าทำรายการยังมีความไม่เหมาะสมในขณะนี้

บริษัท อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค (ECF) เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทฯมีมติเลื่อนการเข้าลงทุนซื้อหุ้นของบริษัท เอสเทรค(ประเทศไทย)หรือ S-TREK และการเพิ่มทุนเกี่ยวกับการเข้าลงทุนครั้งนี้ เนื่องจากพิจารณาแล้วและมีความเห็นว่าข้อเท็จจริงและเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นมีผลกระทบที่เป็นนัยสำคัญต่อการเข้าทำรายการดังกล่าวและอาจมีผลกระทบต่อผลประโยชน์ของบริษัทฯและผู้ถือหุ้น

สื่บเนื่องจากรายงานการตรวจสอบสถานะทางการเงินของ S-TREK ฉบับวันที่ 9 พ.ย.2561 จัดทำโดย บริษัท เอสพี ออดิท(ที่ปรึกษาทางบัญชี) ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานก.ล.ต.ได้เข้าไปตรวจสอบข้อมูลที่ปรากฎตามงบการเงินฉบับตรวจสอบ สิ้นสุดปี 2560 และงบทดลอง ซึ่งจัดทำโดยผู้บริหาร สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย. 2561 ที่ปรึกษาทางบัญชีได้รายงานประเด็นสำคัญที่ตรวจพบไว้หลายประเด็น จึงเป็นที่มาของบอร์ดบริษัทได้ตรวจสอบบัญชีเป็นกรณีพิเศษในงบการเงินปี 2561 ซึ่งจะต้องใช้งบดังกล่าวประกอบการประเมินมูลค่ายุติธรรมของหุ้น และกำหนดเป็นเงื่อนไขสำคัญข้อหนึ่งในการเข้าทำรายการลงทุน โดยผลการตรวจสอบต้องเป็นที่พึงพอใจของบริษัทด้วย

ในระหว่างการตรวจสอบ ที่ปรึกษาทางบัญชีได้รายงานต่อฝ่ายบริหารในเบื้องต้นว่าอาจมีการบันทึกบัญชียังไม่เป็นไปตามมาตรฐานบัญชี จึงต้องเปลี่ยนแปลงมาตรฐานการรายงานทางการเงินสำหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะมาสู่สำหรับกิจการที่มีส่วนได้เสียสาธารณะด้วยระยะเวลาที่จำกัด จึงอาจไม่สามารถแก้ไขปรับปรุงในประเด็นดังกล่าวได้ทันก่อนกำหนดเวลาในการเข้าทำรายการที่ผู้ขายได้ตกลงไว้กับบริษัท และเป็นประเด็นที่มีสาระสำคัญต่องบการเงินของ S-TREK และของบริษัทในอนาคต

นอกจากนี้ บริษัทหลักทรัพย์ ไอ วี โกลบอล ที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ ได้รายงานความเห็นว่า การเข้าทำรายการยังมีความไม่เหมาะสมในขณะนี้ โดยได้คำนึงถึงประเด็นสำคัญที่เกี่ยวข้องกับรายงานตรวจสอบบัญชีเป็นกรณีพิเศษ และการพิจารณาเงื่อนไขในการเข้าทำรายการที่สำคัญ

ส่วนการเพิ่มทุนจำนวน 26.75 ล้านบาท เป็นจำนวน 312.46 ล้านบาท ออกหุ้นใหม่จำนวน 107 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้(พาร์)หุ้นละ 0.25 บาท เสนอขายให้กับบุคคลจำกัด(พีพี) จำนวน 95 ล้านหุ้น หรือ 10% และหุ้นเพิ่มทุน 12 ล้านหุ้น รองรับการปรับสิทธิของหลักทรัพย์แปลงสภาพ (ECF-W3)ในราคาถัวเฉลี่ย 7 วันทำการ แต่ยังไม่สามารถคำนวณการปรับสิทธิได้ในขณะนี้ รอราคา วันแรกของการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนพีพี

ก่อนหน้านี้ ECF จะเข้าซื้อหุ้นของบริษัท S-TREK จำนวน 51% คิดเป็น 15.3 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 33.33 บาท รวมเป็นเงิน 510 ล้านบาท จากนายจิรศักดิ์ เปรมพจน์วัฒนา ชำระเป็นเงินสดและแลกหุ้น ECF ให้นายจิรศักดิ์จำนวน 40.80 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 5 บาทเป็นเงิน 204 ล้านบาท