HoonSmart.com>>อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทย อายุ 10 ปีปรับตัวลง 0.02% ตามความกังวลเศรษฐกิจชะลอตัว บล.เอเซียพลัสคาดส่วนต่างของไทยสูงกว่าสหรัฐ 2.51% เป็นเกราะป้องกันไม่ให้เงินทุนไหลออก
น.ส.อริยา ติรณะประกิจ รองกรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย เปิดเผยว่า การซื้อขายตราสารหนี้ วันทื่ 25 มี.ค.2562 อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทย(บอนด์ยิลด์) อายุ 10 ปี ลดลง 0.02% ตามทิศทางตลาดต่างประเทศ หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี ลดลงมาต่ำกว่า อายุ 3 เดือน หรือ inverted yield curve คาดว่าเป็นสถานการณ์ชั่วคราวเท่านั้น หากเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นการตอกย้ำเรื่องเศรษฐกิจชะลอตัว แต่คงยังไม่ถึงขั้นถดถอย
“ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ส่งสัญญาณว่าจะไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ตลาดตีความเศรษฐกิจจะถดถอย ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวลดลง ส่วนของไทย ก็ลดลงตาม ไม่เกี่ยวกับปัจจัยการเลือกตั้ง” น.ส.อริยา กล่าว
บล.เอเซีย พลัสวิเคราะห์ว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลของไทยยังสูงกว่าสหรัฐ อยู่ที่ 2.51% ถือเป็นเกราะป้องกันสำคัญไม่ให้เงินทุนไหลออก และ สูงกว่า 3 เดือน ถึง 0.84% ดังนั้นเงินทุนต่างประเทศยังมีโอกาสไหลเข้าตลาดหุ้นไทยมากกว่า รวมถึงการจัดตั้งรัฐบาลใหม่น่าจะช่วยให้เงินเข้าระยะสั้น หนุนตลาดหุ้นไทยมีโอกาสเคลื่อนไหวดีกว่าตลาดหุ้นสหรัฐ
บล.กสิกรไทย ระบุ ความกังวล Inverted yield curve เริ่มกลับมากดดันอีกครั้ง โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯอายุ 10 ปี กับ 1 ปี ติดลบ 0.036% สะท้อนความกังวลต่อเศรษฐกิจระยะยาว นักลงทุนจึงแห่ซื้อพันธบัตรระยะยาวเพื่อล็อคผลตอบแทน ลดความเสี่ยงจากการลงทุนใหม่ที่จะได้ผลตอบแทนลดลง (reinvestment risk)
นอกจากนี้ PMI ภาคการผลิตที่มีทิศทางอ่อนแอลงจะกดดันตลาดหุ้นสหรัฐฯไปจนถึงตลาดหุ้นทั่วภูมิภาค มุมมองต่อดัชนีหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นจำกัด มีแนวต้าน 1,660 จุด แนวรับ 1,635 จุด