HoonSmart.com>>ตลาดหลักทรัพย์เห็นโอกาสทางธุรกิจใหม่” ตลาดทุนดิจิทัล” ผนึกกำลังระดมสมองทุกภาคส่วน 27 มี.ค.ร่วมสร้างแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัล เชื่อมต่อตลาดทุนโลก ส่วนการเชื่อมตลาดหลักทรัพย์เพื่อนบ้าน มีไอเดียใช้ DR เพิ่มสภาพคล่อง ก่อนพัฒนาเป็นการจดทะเบียนสองตลาดในอนาคต
นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยถึง”โอกาสทางธุรกิจใหม่ของตลาดทุนไทย” ว่า ตลาดหลักทรัพย์จะพัฒนาตลาดทุนดิจิทัลคู่ขนานไปกับตลาดทุนในปัจจุบัน โดยมองเห็นว่าตลาดทุนดิจิทัลเป็นโอกาสใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นในตลาดทุนไทย ซึ่งในวันที่ 27 มีนาคมนี้จะเชิญผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนมางาน “ร่วมสร้างตลาดทุนดิจิทัลแห่งอนาคต” ผนึกกำลังเพื่อสร้างตลาดทุนแห่งอนาคตด้วยทรัพย์สินดิจิทัล ก่อให้เกิดโอกาสใหม่และเปลี่ยนโลกของการลงทุน คาดว่าจะพัฒนาแพลตฟอร์มต้นแบบและมีความชัดเจนภายในปีนี้ เพื่อให้พร้อมให้บริการในปี 2563
“ในระบบเปิด การแข่งขันเสรี ทุกคนสามารถเข้ามาแข่งขันได้หมด ใครมีคุณสมบัติ มีประสิทธิภาพสูงสุด ปลายเดือนนี้จะเชิญผู้เกี่ยวข้องมาแลกเปลี่ยนมุมมอง เปิดรับฟังความคิดเห็นว่าใครสนใจจะทำ หรือมาเชื่อมต่อกับตลาดบ้าง มีการวางแผนและนำข้อมูลที่แต่ละคนทำมามีอะไรบ้าง ของดีๆ ไม่จำเป็นต้องอยู่ในประเทศเท่านั้น ในต่างประเทศก็ได้ เชื่อมต่อตลาดทุนโลก ต้องหาโจทย์ทางธุรกิจที่ไม่เคยทำได้มาก่อนหรือต่อยอดไม่ได้ สร้างงานใหม่ สร้างการลงทุนใหม่ๆ ในส่วนตลาดหลักทรัพย์ จะมีทั้งทำเอง หรือหาพาร์ทเนอร์ โจทย์คือทุกอย่างจะต้องมีใบอนุญาต แต่หลายเรื่อง เราก็ยังไม่ต้องรีบทำหรือขอใบอนุญาตในตอนนี้ เพราะสามารถทดลองทำ sandbox ได้ก่อน”นายภากรกล่าว
ตลาดทุนยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก ทั้งผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ในปัจจุบัน และสินทรัพย์ดิจิทัล ตลาดร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่มีประสิทธิภาพ ทำทุกอย่างให้เป็นดิจิทัล เชื่อว่าต้นทุนสามารถลดลงหรืออยู่ในระดับเหมาะสม สร้างโอกาสมากขึ้น โดยผู้ร่วมตลาดทั้งบริษัทหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนและธนาคารจะเป็นผู้พัฒนาการให้บริการตรงกับความต้องการ ตอบโจทย์นักลงทุนให้มากที่สุด การพัฒนารูปแบบธุรกิจจากสินทรัพย์ดิจิทัลจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทย และสร้างจุดเปลี่ยนให้เกิดการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดให้กับตลาดทุนไทย
นายภากรกล่าวว่า การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลอย่างเป็นรูปธรรม มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการลงทุนในโลกปัจจุบันให้เป็นดิจิทัลทั้งกระบวนการ ตั้งแต่การเปิดบัญชีที่ไม่ต้องใช้กระดาษ การพิสูจน์ตัวตน การชำระเงินค่าอากรสแตมป์สำหรับสัญญามอบอำนาจแต่งตั้งนายหน้า และการอนุญาตการหักเงินบัญชีธนาคารในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด การพัฒนา FundConnext เชื่อมโยงการลงทุนระหว่างประเทศกับอีกกว่า 56 ประเทศ เพื่อให้ผู้ลงทุนและผู้จำหน่ายกองทุนในประเทศไทยสามารถลงทุนในกองทุนรวมในต่างประเทศ และเป็นช่องทางให้ผู้ลงทุนในต่างประเทศเข้าถึงกองทุนรวมของไทยได้ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์
กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์กล่าวว่า ตลาดทุนไทยมีสินทรัพย์ดิจิทัลแล้ว บล.บัวหลวงได้ออกผลิตภัณฑ์ DR ตัวแรกของไทย “E1VFVN3001” ซึ่งอ้างอิง ETF ที่ลงทุนในดัชนี VN30 ดัชนีหุ้นของบริษัทชั้นนำ 30 บริษัทในเวียดนาม ทำให้นักลงทุนไทยสามารถลงทุนในหุ้นเวียดนามได้ง่ายและรวดเร็ว ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีและช่วยทำให้สภาพคล่องของหุ้นในตลาดหุ้นเวียดนามเพิ่มขึ้น ประมาณ 30%
ทั้งนี้ ในอนาคตผลิตภัณฑ์ DR จะช่วยเชื่อมตลาดทุนไทยกับตลาดทุนประเทศเพื่อนบ้านได้ เช่น ตลาดหลักทรัพย์ลาวมีหลักทรัพย์ 9 ตัว ส่วนหนึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจ สภาพคล่องซื้อขายไม่มาก ราคาไม่สะท้อนปัจจัยพื้นฐาน หากมีการนำหุ้นลาวมาออก DR ขายในไทย หรือนำ ETF ของไทยไปออกที่ลาว ช่วยกระตุ้นสภาพคล่องการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ของทั้ง 2 ประเทศ สร้างความสนใจให้กับนักลงทุนมากขึ้น เพื่อพัฒนาเป็นการจดทะเบียนสองตลาดในอนาคตได้