HoonSmart.com>>ผู้ถือหุ้น EARTH ร้อง DSI ขอความเป็นธรรมให้อดีตผู้บริหาร 11 คน ถูกก.ล.ต.กล่าวโทษ เชื่อไม่มีพฤติกรรมสร้างเจ้าหนี้เทียม ชงวาระพิเศษ 13 มี.ค.นี้ เสนอวาระพิเศษให้กลับมาบริหารงานต่อ
นายสิทธิชัย เจิดอำไพ ในฐานะตัวแทนผู้ถือหุ้นสามัญ บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ (EARTH) กว่า 1,300 ราย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 8 มีนาคมที่ผ่านมา ได้เป็นตัวแทนผู้ถือหุ้นยื่นเอกสารและขอใช้สิทธิ์ชี้แจงเพิ่มเติม ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เพื่อขอให้ DSI รับทราบและขอความเป็นธรรมให้แก่บริษัทฯ และอดีตผู้บริหารทั้ง 11 คน ที่ถูกกล่าวโทษจากสำนักงานก.ล.ต. กรณียินยอมให้ลงข้อความเท็จ หรือไม่ลงข้อความสำคัญในรายละเอียดเกี่ยวกับหนี้สินที่เพิ่มขึ้นจำนวน 26,000 ล้านบาท เพื่อลวงไม่ให้ผู้ลงทุนและเจ้าหนี้ รู้รายละเอียดที่แท้จริงของหนี้สิน สร้างหนี้เทียม และขอให้ดำเนินคดีต่อ นายสมชาย พงษ์พัฒนาศิลป์ ผู้ช่วยเลขาธิการก.ล.ต. ที่ลุแก่อำนาจ ที่ปลดอดีตผู้บริหา รทั้งที่คดียังไม่ถึงที่สุด และสร้างความเสียหายให้แก่ธุรกิจและนักลงทุนในวงกว้าง
ตัวแทนผู้ถือหุ้น กล่าวว่า อดีตกรรมการทั้ง 11 ราย เหมาะสมที่จะบริหารธุรกิจต่อไป จากผลงานในอดีต เป็นที่ประจักษ์ว่า บริหารงานกำไรต่อเนื่องทุกปี และจ่ายปันผลทุกปี เมื่อข้อกล่าวหาไม่เป็นความจริง ก.ล.ต กลั่นแกล้งอดีตกรรมการทั้ง 11 ราย ผู้ถือหุ้นจะนำเสนอวาระพิเศษ ในการประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 13 มีนาคม 2562 เพื่อลงมติให้อดีตกรรมการทั้ง 11 ราย กลับมาบริหารงานและเป็นตัวแทนในการตรวจสอบในการบริหารงาน
นายสิทธิชัย กล่าวอีกว่า บริษัท EARTH ได้ชี้แจงสถานะของหนี้เทียม ที่เกิดจากคดีความ ที่เกี่ยวข้องกับคู่สัญญาทางการค้าอย่างละเอียด ไม่มีพฤติกรรมอำพรางสร้างหนี้เทียม อีกทั้งหนี้บางส่วนยังถูก EY ผู้ทำแผนฟื้นฟูกิจการ จัดให้อยู่ในเจ้าหนี้กลุ่มที่ 7 ไม่มีพฤติกรรมสร้างเจ้าหนี้เทียมแต่อย่างไร
นอกจากนั้น คู่ค้าที่เรียกร้องสิทธิ เป็นบริษัทในประเทศจีนเป็นคู่ค้าของ EARTH จริง มีการทำธุรกรรมซื้อขายถ่านหินที่ประเทศจีนมากกว่า 5 ปีแล้ว ปัจจุบันยังมีการค้าขายกันอยู่ ตลอดเวลาที่ผ่านมา EARTH ไม่เคยยอมรับหนี้ที่คู่ค้าจีนเรียกร้อง ท้ายที่สุดคู่ค้าจีนส่วนใหญ่ ได้ถอนฟ้องและไม่เกิดความเสียหายแก่บริษัท มีเพียงคู่ค้าบางส่วน ที่ฟ้องร้องขอรับชำระหนี้ และถูก EY จัดอยู่ในเจ้าหนี้กลุ่มที่ 7
” ผมเห็นว่า กลต.ได้แสดงความไม่เป็นธรรมต่ออดีตกรรมการบริหารทั้ง 11 ราย โดยการกล่าวโทษและปลดจากกรรมการบริษัท ซึ่งบางส่วนเป็นเพียงกรรมการอิสระ ได้รับการแต่งตั้งจากผู้ถือหุ้นให้เป็นตัวแทนผู้ถือหุ้นในการตรวจสอบ และไม่มีส่วนร่วมในการบริหารแต่อย่างไร ไม่มีเจตนากระทำการตามที่ก.ล.ต.กล่าวโทษ เรื่อง ยินยอมให้ลงข้อความเท็จหรือไม่ลงข้อความสำคัญในรายละเอียดเกี่ยวกับหนี้สินที่เพิ่มขึ้น 2.6 หมื่นล้านบาท อีกทั้งศาลล้มละลายกลาง ยังได้ช่วยไกล่เกลี่ยเจ้าหนี้ที่ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายและตกลงกันได้อย่างน่าพอใจ จนท้ายที่สุดมีการถอนฟ้องและบริษัทได้แจ้งข่าวผ่านระบบตลาดหลักทรัพย์ให้ผู้ถือหุ้นทราบเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2561 ซึ่งไม่ได้สร้างความเสียหายให้แก่บริษัท คู่ค้า ผู้ถือหุ้นรวมถึงเจ้าหนี้อื่นต่างใด
การที่ กลต.กล่าวโทษต่ออดีตผู้บริหารทั้ง 11 ราย ซึ่งมีความขัดแย้งกับคำสั่งศาล ทำให้ EARTH เกิดความเสียหาย เพราะขาดกรรมการ ที่มีความเชี่ยวชาญในการดำเนินกิจการของบริษัท อีกทั้งทำให้ชื่อเสียงของ EARTH เสียหายจนประเมินค่าไม่ได้ อดีตผู้บริหารก็ได้ดำเนินคดีแจ้งความร้องทุกข์ต่อกองปราบปรามสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต่อนายสมชายพงษ์พัฒนาศิลป์ ผู้ช่วยเลขาธิการ ก.ล.ต. ซึ่งเป็นผู้ลงนามกล่าวโทษอดีตกรรมการทั้ง 11 ราย ซึ่งกองปราบปรามได้สอบสวนและได้ส่งเรื่องที่อดีตผู้บริหารได้แจ้งความร้องทุกข์ไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามกาทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2561 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งผู้ถือหุ้นจะได้ติดตามความคืบหน้าต่อไป
สำหรับอดีตกรรมการทั้ง 11 คน ประกอบด้วย (1) นายพิสุทธิ์ พิหเคนทร์ (2) นายขจรพงศ์ คำ ดี(3) นายธนาวรรธน์ ประทุมสุวรรณ์ (4) นายพิรุฬห์ พิหเคนทร์ (5) นายพิพรรธ พิหเคนทร์ (6) นายพิบูล พิหเคนทร์ (7) นางสาวกาญจนา จักรวิจิตโสภณ (8) นายสมเกียรติ ศุขเทวา
(9) นายสุริยาภรณ์ บุญชัย (10) นายเอกนฤน ธรรมมารักษ์ และ (11) นายธงชัย วัฒนโสภณวงศ์