บจ.mai ขายดีขึ้นเฉียด15% กำไรโต 2%

HoonSmart.com>>บจ.ในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ ฟอร์มดี ปี 2561 ทุกอุตสาหกรรมขายดี ทำได้ทั้งหมด 174,363 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.64% ต้นทุนเพิ่มตามราคาน้ำมัน กดดันอัตรากำไรขั้นต้นลดลง 0.97% เหลือ 21.46% กำไรสุทธิรวม 5,131 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.09% นำโดยกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร ทรัพยากร บริการ และสินค้าอุปโภคบริโภค สัดส่วนหนี้สินต่อทุนเพิ่มเล็กน้อยเป็น 1.04 เท่า

นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า บริษัทจดทะเบียน (บจ.) ใน mai จำนวน 149 บริษัท คิดเป็น 93% จากทั้งหมด 161 บริษัท เปิดผลงานประจำปี 2561 มียอดขายรวม 174,363 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.64% ต้นทุนรวม 136,947 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.07% ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้น(มาร์จิ้น)ลดลงจาก 22.43% มาอยู่ที่ 21.46% อย่างไรก็ดี บจ. ยังคงมีความสามารถในการทำกำไรจากการดำเนินงานรวม 7,043 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51.22% และมีกำไรสุทธิรวม 5,131 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.09% ทั้งนี้ บจ.ที่รายงานผลกำไรสุทธิจำนวน 110 บริษัท คิดเป็น 74% ของบริษัทที่นำส่งผลการดำเนินงานทั้งหมด

” ทุกกลุ่มอุตสาหกรรมมียอดขายโต แต่ราคาน้ำมันที่สูงขึ้น ทำให้ต้นทุนสูงขึ้น ส่งผลต่อความสามารถในการทำกำไรของหลายบริษัท โดยเฉพาะบริษัทในกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม แต่บจ. ยังคงมีกำไรสุทธิรวมเพิ่มขึ้น”

สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตของกำไรสุทธิ ได้แก่ กลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร กลุ่มทรัพยากร กลุ่มบริการ และกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค ตามลำดับ

นายประพันธ์กล่าวว่า ฐานะทางการเงินของ บจ. mai มีโครงสร้างเงินทุนรวมยังแข็งแรง อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนอยู่ที่ 1.07 เท่า เพิ่มขึ้นจากสิ้นปีที่แล้วที่ 1.01 เท่าและมีสินทรัพย์รวม 271,524 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.25% จ

ปัจจุบันมี บจ. ใน mai 161 บริษัท ( ณ วันที่ 8 มี.ค. 2562) ดัชนี mai ปิดที่ 371.20 จุด มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม (มาร์เก็ตแคป) อยู่ที่ 253,267 ล้านบาท มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ย 800 ล้านบาทต่อวัน