HoonSmart.com”ดับบลิวเอชเอ” จ่อขายที่ดิน 285 ไร่ บริษัทผลิตรถยนต์จากจีนต้นเม.ย.นี้ สร้างคลังสินค้าให้กลุ่มอาลีบาบาเช่า 2 แสนตารางเมตร รับรู้รายได้ในปีนี้ คงเป้ารายได้และส่วนแบ่งกำไรปีนี้เติบโตกว่า 70% จาก 4 ธุรกิจ ขายสินทรัพย์เข้ากอง REIT อีก 5,750 ล้านบาท ออกหุ้นกู้จำนวน 7 พันล้านบาท
นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA) เปิดเผยว่า บริษัทฯได้ทำสัญญาจะขายที่ดินจำนวน 285 ไร่ ให้กับบริษัทที่ผลิตรถยนต์รายใหญ่จากจีนแล้วเปิดเผยรายละเอียดในเดือนเม.ย.นี้ เป็นพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรมอุตสาหกรรมแห่งใหม่ที่มีขนาด 2 พันไร่ ขณะนี้นักลงทุนจากจีนเข้ามาลงทุนในไทย เพิ่มมากขึ้นในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ลูกค้าจากจีนเติบโตประมาณ 15% จากสงครามการค้า ทำให้นักลงทุนจากจีน กระจายความเสี่ยงการลงทุนมายังไทย รวมถึงโครงการเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เป็นปัจจัยสนับสนุนให้นักลงทุนต่างชาติสนใจเข้ามาลงทุน
นางสาวจรีพร กล่าวว่า ยอดขายที่ดินปีนี้เติบโตมากกว่าปีก่อน ส่วนหนึ่งเป็นที่ดินซึ่งโอนไม่ทันในปีที่ผ่านมา แต่ลูกค้าได้ทำหนังสือแสดงเจตจำนงในการซื้อไว้แล้ว ในปีนี้จึงตั้งเป้าหมายยอดขายที่ดินที่ 1,600 ไร่ แบ่งเป็นในไทย 1,400 ไร่ และในเวียดนาม 200 ไร่ ปัจจุบันบริษัทมีนิคมอุตสาหกรรมในไทย 10 แห่ง ซึ่งตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ EEC 9 แห่ง และในเวียดนาม 1 แห่ง ที่ได้รับอนุญาตให้พัฒนาเป็นนิคมอุตสาหกรรม 2 หมื่นไร่ จำนวน 6 เฟส ภายในระยะเวลา 20 ปี เฟสแรกพัฒนาไปแล้ว 1 พันไร่ มีแผนที่จะพัฒนาเพิ่มเป็น 3 พันไร่ในเฟสถัดไป
ส่วนนิคมอุตสาหกรรมที่บ้านค่าย จังหวัดระยอง ซึ่งร่วมกับบริษัท ไออาร์พีซี (IRPC) ขณะนี้อยู่ระหว่างยื่นขอ EIA คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ประมาณปี 2564
สำหรับธุรกิจคลังสินค้า บริษัทได้สัญญาก่อสร้างคลังสินค้าบนพื้นที่ 2 แสนตารางเมตร ให้กับกลุ่มอาลีบาบาเช่า แบ่งเป็น 2 เฟส เฟสแรกขนาด 1.3 แสนตารางเมตร คาดก่อสร้างเสร็จภายใน เดือนก.ย.นี้ ส่วนเฟสที่ 2 ขนาด 7 หมื่นตารางเมตรจะก่อสร้างเสร็จปลายปีนี้ ขณะนี้กลุ่มอาลีบาบากำลังเจรจาเงื่อนไขการลงทุนกับภาครัฐ หากมีความพอใจ ก็อาจจะเป็นลักษณะของการซื้อคลังสินค้าแทนการเช่าก็ได้ ทำให้รายได้จากธุรกิจโลจิสติกส์เพิ่มขึ้น
ในส่วนของธุรกิจสาธารณูปโภคและพลังงาน ก็มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากการจำหน่ายน้ำ ตั้งเป้าที่ 120 ล้านลูกบาศก์เมตร และจะมีการกำลังการผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ตามสัดส่วนการถือหุ้น 570 เมกะวัตต์ (MW) จากปีก่อนที่ 521 MW มาจากโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนไม่ต่ำกว่า 20 MW ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มเป้าหมายจากเดิม 15 MW มาจากโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์บนหลังคาที่เพิ่มขึ้น
นางสาวจรีพร กล่าวว่า ในส่วนของกลุ่มธุรกิจดิจิทัล แพลตฟอร์ม มีดาต้าเซ็นเตอร์ 4 แห่ง ในปีนี้จะเน้นให้สนับสนุนใน 3 กลุ่มธุรกิจของบริษัทเพื่อให้มีการเติบโต พร้อมกับสนับสนุนลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรม และบริษัทยังคงเป้าหมาย 2562 จะมีรายได้และส่วนแบ่งกำไรเติบโตกว่า 70% โดยจะมีการขายสินทรัพย์เข้ากอง REIT อีก 5,750 ล้านบาท ในช่วงปลายปีนี้ และมีแผนที่จะออกหุ้นกู้จำนวน 7 พันล้านบาท เพื่อเป็นการลดต้นทุนทางการเงิน