บริษัทไทย-เทศ บิ๊กเนม กว่า 10 ราย สนใจ วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง เสนอตัว ผ่าน “เครดิต สวิส” ที่ปรึกษาการเงิน หลังแผนเข้าตลาดหลักทรัพย์ริบหรี่ คดีฟ้องร้องสิทธิของหุ้นยังไม่รู้ใครเป็นเจ้าของ ขณะที่ “ประเดช” ชี้โครงการโรงไฟฟ้าลม 450 เมกกะวัตต์ เฟสสุดท้าย COD 15 มี.ค.นี้ กำไรปีละไม่ต่ำกว่า 6 พันล้านบาท สร้างมูลค่าหุ้นที่ถือพร้อมลงทุนยาว ยังหวังเข้าตลาดหลักทรัพย์ได้
มหากาพย์การแย่งชิงหุ้นบริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง ( WEH ) ที่มีจุดเริ่มจาก นายนพพร ศุภพิพัฒน์ กับ ณพ ณรงค์เดช เจ้าของเก่า-ใหม่ ขยายวงกว้างไปยังผู้เกี่ยวข้องมากมาย เป็นหุ้นร้อน ของครอบครัว “เกษม ณรงค์เดช” พ่อ-ลูก พี่-น้อง ต้องมาทะเลาะและฟ้องร้องเป็นคดี เพราะหุ้นตัวนี้
เบื้องหน้า-เบื้องหลัง เบื้องลึก เป็นเรื่องของคนสองคน “ นพพร-ณพ” และของ “เกษม-ณพ” ที่รู้ดี
เมื่อคดีฟ้องร้อง ไม่น้อยกว่า 20 คดี ยังไม่สิ้นสุด สิทธิในการเป็นเจ้าของหุ้น WEH ตกอยู่กับใคร ใครควรเป็นเจ้าของที่ถูกต้องตามกฎหมาย รอคำตัดสินที่สิ้นสุด ซึ่งต้องใช้เวลาอีกหลายปี
ขณะที่ธุรกิจของ WEH ต้องเดินหน้าต่อ โครงการพลังงานลมห้วยบง ขนาด 450 เมกกะวัตต์ ที่มีแบงก์ไทยพาณิชย์ ( SCB ) เป็นแหล่งเงินกู้สำคัญของโครงการนี้ ด้วยเม็ดเงินจำนวนมาก 3.5 หมื่นล้านบาท เดินหน้ามาถึงเฟส 5 สุดท้าย กำลังจะจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ ( COD ) วันที่ 15 มี.ค.นี้ ทั้งหมด 450 เมกกะวัตต์ เป็นมูลค่าที่สร้างกำไรให้กับ WEH ตกปีละ 6-7 พันล้านบาท ตามคำบอกเล่าของ “ประเดช กิตติอิสรานนท์ “ ผู้ถือหุ้นใหญ่ สัดส่วน 38 %
คุณสมบัติของ WEH พร้อมสำหรับการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ( SET ) และตลาดหลักทรัพย์ เอ็มเอไอ (mai ) เป็นความหวังที่ “ณพ-ประเดช” รอมาถึงวันนี้ และวันที่ 15 มี.ค. ที่ WEH จ่ายไฟเฟสสุดท้าย
“ณพ” รู้เต็มอก ว่า คดีฟ้องร้องต่าง ๆ ที่ “นพพร” เจ้าของเก่าฟ้อง หรือคดีปลอมลายเซ็น “เกษม ณรงค์เดช” ผู้เป็นพ่อ และอีกหลาย ๆ คดี ดับฝันในการเข้าตลาดหุ้น ตราบใดที่สิทธิของหุ้น ไม่สามารถระบุเจ้าของที่ถูกต้องได้
เมื่อก.ล.ต.ดับฝัน ฝ่ายบริหาร WEH จึงได้แต่งตั้งบริษัท เครดิต สวิส ขึ้นมาเป็นที่ปรึกษาการเงิน ช่วยหาเงินทุนให้ WEH หาผู้สนใจร่วมทุน ไปจนถึงหาผู้สนใจซื้อหุ้น มีบริษัทไทย-เทศ ล้วนระดับพลังงานบิ๊กเนม ไม่น้อยกว่า 10 ราย ให้ความสนใจ 1 ในนั้น มี “นายกลาง-สารัช” กัลฟ์ ฯ ด้วย ที่วิ่งทุกทาง เพื่อให้ได้ WEN มา เอาเป็นว่า ดีลนี้สรุปกลางปี ส่วนใครจะได้ไปขึ้นอยู่กับปริมาณและราคา
“ตอนนี้ ณพ น่าจะทำใจยอมรับแล้วว่า การเข้าตลาดหุ้นเป็นสิ่งที่ยาก จึงต้องตั้งเครดิต สวิส หาผู้ร่วมทุน และอีกทางมีกระแสข่าวว่า “ณพ” ต้องการคุย ต้องการจบ ยุติศึกกับ “นพพร”
แต่ตัวแปรสำคัญอีกอย่างคือ “ประเดช” ที่ร่วมหัวจมท้ายกับ “ณพ” และถือหุ้นอันดับ 2 รองจาก “ณพ” ที่ต้องรับรู้และไฟเขียว การขายหุ้น WEH ด้วย หาก “ณพ” จะขายหุ้นยกบริษัททั้งหมดออกไป ต้องถาม “ประเดช” ก่อนว่ายอมหรือไม่
“ประเดช” เชื่อเหลือเกินว่า ณ เวลานี้ WEH เข้าตลาดหุ้นได้ จากโรงไฟฟ้าพลังงานลม 450 เมกกะวัตต์ ทำกำไรปีละไม่น้อยกว่า 6 พันล้านบาท และเป็นไปไม่ได้ที่จะมีบริษัทไหน ซื้อกิจการทั้งหมดของ WEH ออกไป เพราะต้องใช้เงินซื้อสูงมาก
“วินด์ มีคุณสมบัติพร้อมยื่นไฟลิ่งได้ คนอยากได้ WEH ทั้งหมด ไม่มีทางได้ เพราะผมไม่ขาย อีกอย่างคนซื้อต้องใช้เงินมาก หากเข้าตลาดหุ้นไม่ได้จริง ๆ ผมก็ถือลงทุนรอเงินปันผล ผมไม่ได้เดือดร้อนเงิน แต่อาจแบ่งขายบางส่วนของผมเท่านั้น ซึ่งเป็นส่วนน้อย 5-10 % เท่านั้น” ประเดชย้ำ