WP เล็งเทคโอเวอร์กองเรือขนส่งก๊าซ LPG

“ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่” ปักธงผู้นำพลังงานครบวงจร เล็งเทคโอเวอร์กองเรือขนส่งก๊าซ LPG และผลิตถังก๊าซ ตั้งเป้าขายก๊าซ LPG 8.4 แสนตัน โต 3 %

นางสาวชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ (WP) WP กล่าวว่า แผนดำเนินธุรกิจปีนี้ จะขยายธุรกิจ การเป็นผู้นำพลังงานครบวงจรตั้งแต่ต้นนำ้จนถึงปลายน้ำ โดยสนใจลงทุนธุรกิจกองเรือขนส่ง LPG การผลิตถังก๊าซ LPG

นอกจากนี้ การเข้าไปถือหุ้นบริษัท ไทยแก๊ส ในสัดส่วน 80% จะช่วยขยายฐานลูกค้า โดยไทยแก๊สมีคลังแก๊ส อยู่ที่พิจิตร ซึ่ง WP ไม่มีจุดจำหน่ายภาคเหนือตอนบน จึงสนับสนุนบริษัทได้ ทำให้มีคลังแก๊ส 6 แห่ง ครอบคลุมทั่วประเทศ ความจุ 10,900 ตัน และอยู่ระหว่างก่อสร้างคลังแห่งใหม่ที่บางปะกง คาดแล้วเสร็จปลายปี 2563 รองรับได้เพิ่มเป็น 20,409 ตัน

การแถลงแผนธุรกิจ

นางสาวชมกมล กล่าวว่า ปัจจุบัน WP มีส่วนแบ่งการตลาดยอดขายก๊าซในประเทศ ภายใต้แบรนด์ ”เวิลด์แก๊ส” เป็นอันดับ 2 หรือคิดเป็น 18%

รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร WP กล่าวว่า บริษัทยังมีแผนขยายฐานลูกค้าไปยังประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาค CLMV เพราะเป็นตลาดที่ยังขยายตัวได้อีกมาก

นางสาวชมกมล กล่าวว่า ผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท มีความเชื่อมั่นในศักยภาพการเติบโตของบริษัท และมองคุ้มค่า ที่จะถือลงทุนในระยะยาว

นายนพวงศ์ โอมาธิกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการเงิน และบริหารองค์กร บริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ (WP) คาดว่า กำไรปีนี้จะมากกว่าปีก่อน ซึ่งอยู่ที่ 321 ล้านบาท เพราะมีรายการพิเศษจากการขายที่ดินย่านบางคอแหลม กรุงเทพ พื้นที่ 1 ไร่ 80.7 ตารางวา ราคาต้นทุน 63 ล้านบาท และมีราคาตั้งต้นประมูล 130 ล้านบาท คาดว่า จะได้ราคาที่สูงกว่าราคาเริ่มต้น

ส่วนปริมาณการขายก๊าซ LPG ปีนี้จะอยู่ที่ 840,000 ตัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 2-3% เพราะคาดว่าการใช้ก๊าซ LPG ในภาคขนส่ง หดตัวราว 3-5% แต่การใช้ก๊าซภาคครัวเรือนและอุตสาหกรรม น่าจะเติบโตได้ประมาณ 3-5%

นายนพวงศ์ กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทหันมารุกก๊าซ LPG ในภาคอุตสาหกรรม และภาคครัวเรือนมากขึ้น เนื่องจากมีมาร์จิ้นที่ดีกว่าภาคขนส่ง โดยสัดส่วนรายได้ปีนี้จะมาจากภาคอุตสาหกรรม 10% เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ซึ่งอยู่ที่ 9% ส่วนภาคครัวเรือนอยู่ที่ 54% จาก 53% ในปีก่อน

สำหรับงบลงทุนโดยปกติจะอยู่ที่ประมาณ 100-200 ล้านบาท เพื่อใช้ในการดำเนินตามปกติ และปรับปรุงประสิทธิภาพคลังแก๊ส ซึ่งไม่รวมการซื้อกิจการหรือการร่วมลงทุนที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ส่วนกระแสเงินอยู่ที่ 1 พันล้านบาท

นายสุทัศน์ นิติกรไชยรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์และพัฒนาธุรกิจ WP กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจาที่จะซื้อกิจการ หรือการร่วมทุนในธุรกิจกองเรือขนส่งก๊าซ LPG แต่หากเป็นการร่วมทุนบริษัทก็ต้องเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ คาดว่าในปีนี้จะได้ข้อสรุป ใช้เงินลงทุนหลายร้อยล้านบาท และยังสนใจร่วมทุนในธุรกิจผลิตถังแก๊สในประเทศไทย

ส่วนการลงทุนในต่างประเทศ ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจาพันธมิตร เพื่อร่วมทำธุรกิจเทรดดิ้งพลังงาน ในสิงคโปร์ เพราะมองว่าสิงคโปร์เป็นฮับในภูมิภาคอาเซียนเกี่ยวกับก๊าซ LPG และนำ้มัน

นอกจากนี้ยังสนใจขยายการลงทุนไปยังเมียนมา ซึ่งจะเป็นการทำธุรกิจแบบเดียวกับในไทย เพราะมองว่า ตลาดก๊าซ LPG ยังมีโอกาสที่จะขยายตัวได้อีกมาก เพราะประชากรในเมียนมา มีถึง 60-70 ล้านบาท

ส่วนการเจรจาร่วมทุนในโซลาร์ฟาร์มในเวียดนาม ได้ยกเลิกบางโครงการที่คาดว่าจะให้ผลตอบแทน IRR ต่ำกว่า 10% แต่ก็ยังมีการเจรจาบางโครงการอยู่ การเจรจาจะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ

จากข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์ ผู้ถือหุ้นใหญ่ WP 5 อันดับแรก ประกอบด้วยนายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ถือหุ้น 18.63% รองลงมานางสาวอภิรดี โอภาสเอี่ยมลิขิต ถือหุ้น 13.83% นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ ถือหุ้น 11.62% นายชัชวาลย์ เจียรวนนท์ ถือหุ้น 7.20% และนายสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ถือหุ้น 7.03%