“ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น” กวาดรายได้รวม-ส่วนแบ่งกำไรบริษัทร่วมและกิจการร่วมค้ากว่า 11,622 ล้านบาท หนุนกำไรสุทธิ 2,907 ล้านบาท ธุรกิจไฟฟ้า รายได้การขายน้ำเพิ่มขึ้น ด้าน “จรีพร จารุกรสกุล” CEO ลั่นเดินหน้าสร้างรายได้และส่วนแบ่งกำไร คาดปี 62 เติบโตมากกว่า 70% ตามแผน
น.ส.จรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA) ผู้นำธุรกิจแบบครบวงจร ด้านธุรกิจโลจิสติกส์ นิคมอุตสาหกรรม ระบบสาธารณูปโภคและพลังงาน และดิจิทัลแพลตฟอร์ม เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงวดปี 2561 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติ ที่ไม่รวมผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนและรายการพิเศษ อยู่ที่ 2,918 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% เป็นผลมาจากส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น จากการเริ่มทยอยการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ของโรงไฟฟ้าขนาดเล็กจำนวน 5 โรงไฟฟ้า ตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ปี 2560 เป็นต้นมา ทำให้จำนวนเมกกะวัตต์ตามสัดส่วนการถือหุ้นเพิ่มขึ้นเป็น 521 เมกกะวัตต์
รวมถึงการเพิ่มขึ้นของรายได้ในธุรกิจสาธารณูปโภค จากการเพิ่มขึ้นของปริมาณการขายและให้บริการน้ำตามความต้องการใช้น้ำของโรงไฟฟ้าที่เริ่ม COD นอกจากนี้บริษัทฯ ได้มีการพัฒนาศักยภาพในการให้บริการ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจและเพิ่มประเภทของผลิตภัณฑ์ รวมถึงเพิ่มสัดส่วนการจำหน่ายน้ำประปาและน้ำอุตสาหกรรม ส่งผลให้บริษัทฯ มีอัตรากำไรที่สูงขึ้น ตลอดจนการลดลงของต้นทุนทางการเงินอย่างมีนัยสำคัญกว่า 27%
อย่างไรก็ตาม หากพิจาณาจากรายได้รวมและส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนในบริษัทร่วมและกิจการร่วมค้าตามงบการเงินอยู่ที่ 11,622 ล้านบาท ลดลง 6% เมื่อเทียบกับปี 2560 เนื่องจากจำนวนที่ดินที่โอนในปี 2561 ที่น้อยลง แม้ว่าบริษัทฯ มียอดขายที่ดินรวมหนังสือแสดงเจตจำนงในการซื้อที่ดิน (LOI) กว่า 1,232 ไร่ ในปี 2561 ตอกย้ำความเป็นเบอร์ 1 ในด้านผู้ประกอบการนิคมอุตสาหกรรม ขณะที่กำไรสุทธิตามงบการเงินอยู่ที่ 2,907 ล้านบาท ลดลง 11% เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนและรายการพิเศษ ซึ่งเป็นเพียงผลกระทบทางบัญชี และไม่ส่งผลกระทบต่อกระแสเงินสด และผลประกอบการที่แท้จริงของบริษัทฯ
นอกจากนี้ บริษัทฯ มีการขายสินทรัพย์เข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม โกรท (WHART) มูลค่าทรัพย์สินจำนวน 4,465 ล้านบาท และกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เหมราช (HREIT) ที่มีมูลค่าทรัพย์สิน 1,590 ล้านบาท ในช่วงต้นปี และปลายปี อีก 477 ล้านบาท
ด้านที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 22 กุ.พ.62 ได้มีมติอนุมัติจ่ายปันผลเป็นเงินสดงวดปี 2561 ในอัตราหุ้นละ 0.0833 บาท โดยกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 9 พ.ค.62 และวันกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล 10 พ.ค.62 เพื่อจ่ายปันผลในวันที่ 28 พ.ค.62 โดยจะมีการเสนอเข้าสู่ที่ประชุมผู้ถือหุ้น เพื่ออนุมัติในลำดับต่อไป วันที่ 29 เม.ย.62 นี้
น.ส.จรีพร กล่าวว่า สำหรับภาพรวมธุรกิจในปี 2562 ตั้งเป้ารายได้และส่วนแบ่งกำไรเติบโตกว่า 70% จาก 4 กลุ่มธุรกิจประกอบด้วย 1.กลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์ ซึ่งเตรียมขยายเพิ่มอีก 250,000 ตารางเมตรครอบคลุมการบริหารจัดการของดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป รวมทั้งสิ้น 2,500,000 ตารางเมตร และขายสินทรัพย์เข้ากอง REIT อีก 5,750 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นการร่วมมือกับกลุ่มบริษัท และผู้นำในอุตสาหกรรม เพื่อสร้างมูลค่าจากนโยบายของภาครัฐ ทั้งการให้บริการธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ การบินและอากาศยาน ควบคู่ไปกับการสร้างมูลค่าเพิ่มยิ่งขึ้น
2. กลุ่มธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมตอกย้ำความเป็นผู้นำในประเทศไทยในปี 2562 ตั้งเป้ายอดขายที่ดิน จำนวน 1,600 ไร่ แบ่งเป็นในไทย 1,400 ไร่ และ 200 ไร่ ที่ประเทศเวียดนาม โดยมีแผนที่จะเปิดตัวนิคมฯแห่งใหม่ในประเทศไทยเร็วๆนี้ ซึ่งจะทำให้ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ปมีนิคมฯรวม 11 แห่ง โดยเป็นนิคมฯที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) จำนวน 9 แห่ง
3.กลุ่มธุรกิจบริการสาธารณูปโภคและพลังงาน ตั้งเป้าการผลิต และจำหน่ายน้ำที่ 120 ล้านลบ.ม. เล็งผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ตามสัดส่วนการถือหุ้น 570 เมกะวัตต์ จากโรงไฟฟ้าพลังงานเชื้อเพลิงเชิงพาณิชย์ และพลังงานทดแทน พร้อมเสริมโซลูชั่นระบบน้ำและพลังงานใหม่ๆ แก่ลูกค้า
4.กลุ่มธุรกิจดิจิทัล แพลตฟอร์ม เร่งปรับโฉมทุกนิคมอุตสาหกรรมในเครือให้เป็นดิจิทัล เต็มรูปแบบ ในปี 2562 โดยเตรียมเปิดให้บริการไฟเบอร์ออพติก (FTTx) ใน 10 นิคมอุตสาหกรรมของดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป