HoonSmart.com >> “ซีพี ออลล์” เผยปี 62 จัดงบลงทุน 1.15-1.2 หมื่นล้านบาท ลุยเปิดสาขาใหม่ 700 สาขา พร้อมปรับปรุงร้านเดิม ตั้งเป้ายอดขายเติบโตใกล้เคียง GDP เจรจาแฟรนไชส์หลัก ลุยเปิดสาขาในกัมพูชาและลาว ด้านผลงานปี 61 กำไร 2 หมื่นล้าน โต 5% แจกปันผล 1.20 บาท XD 3 พ.ค.62
บริษัท ซีพี ออลล์ (CPALL) แจ้งว่า บริษัทคาดว่าจะใช้งบลงทุนในปี 62 ประมาณ 11,500 -12,000 ล้านบาท แบ่งเป็น การเปิดร้านสาขาใหม่ 3,800-4,000 ล้านบาท การปรับปรุงร้านเดิม 2,400-2,500 ล้านบาท ลงทุนโครงการใหม่ รวมบริษัทย่อยและศูนย์กระจายสินค้า 4,000-4,100 ล้านบาท ลงทุนสินทรัพย์ถาวร และระบบสารสนเทศ 1,300-1,400 ล้านบาท
นอกจากนี้บริษัทวางแผนลงทุนขยายเครือข่ายร้านสาขาต่อเนื่องไปตามการขยายตัวของชุมชน โครงสร้างพื้นฐานต่างๆ แหล่งท่องเที่ยว รวมถึงทำเลที่มีศักยภาพอื่นๆ เพื่ออำนวยความสะดวกและเข้าถึงความต้องการของลูกค้าให้ได้มากที่สุด โดยบริษัทได้กำหนดเป้าหมายใหม่ที่จะขยายสาขาให้ครบ 13,000 สาขา ภายในปี 64 และวางแผนลงทุนเปิดร้านสาขาใหม่อีกประมาณ 700 สาขาในปี 62
บริษัทฯ ประมาณการรายได้จากการขายและบริการจะยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยอัตราการเติบโตของรายได้ส่วนใหญ่มาจากอัตราการเติบโตของยอดขายจากร้านสาขาใหม่ และอัตราการเติบโตของยอดขายเฉลี่ยจากร้านเดิม คาดว่าจะอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ อาทิ ระดับของอัตราเงินเฟ้อ การขยายตัวของการบริโภคภายในประเทศ เป็นต้น
นอกจากนั้น บริษัทตั้งเป้าขยายอัตรากำไรขั้นต้นให้ได้อย่างต่อเนื่องจากปีก่อน โดยเน้นการพัฒนาระบบในการคัดสรรสินค้าให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น และผลักดันให้มีสัดส่วนของสินค้าที่กำไรขั้นสูงเพิ่มขึ้น ทั้งจากสินค้ากลุ่มอาหารและเครื่องดิ่ม และสินค้าอุปโภค
คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติให้ดำเนินการเจรจาและตกลงเพื่อเข้าทำสัญญาแฟรนไชส์หลักในการลงทุนจัดตั้งและดำเนินการร้าน 7-Eleven ในประเทศกัมพูชาและประเทศลาว ทั้งนี้ บริษัทได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงเบื้องต้นกับ 7-Eleven, Inc. สำหรับการได้รับสิทธิแฟรนไชส์ในการจัดตั้งและดำเนินการร้าน 7-Eleven ดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 29 ม.ค.62 โดยมีกำหนดระยะเวลาของบันทึกข้อตกลงเบื้องต้นฉบับนี้จะสิ้นสุดเมื่อลงนามในแฟรนไชส์หลัก คาดว่าจะเสร็จภายในไตรมาส 2/62
อย่างไรก็ตามสามารถขยายระยะเวลาได้โดยความเห็นขอบของคู่สัญญา การลงนามในบันทึกข้อตกลงดังกล่าว บริษัทไม่มีภาระผูกพันที่จะต้องลงนามในสัญญาแฟรนไชส์หลักกับ 7-Eleven, Inc. แต่อย่างใด
คณะกรรมการบริษัทมอบหมายอำนาจให้นายก่อศักดิ์ ไชยรัศมีและนายอำรุง สรรพสิทธิ์วงศ์ เป็นผู้ได้รับมอบหมายและมีอำนาจมอบหมายช่วงให้ฝ่ายจัดการเพื่อดำเนินการเจรจา ข้อกำหนด เงื่อนไขรายละเอียด การเข้าทำสัญญาแฟรนไชส์หลักทั้ง 2 ประเทศ รวถึงเอกสารอื่นเพื่อใช้ประกอบการทำสัญญา
นอกจากนี้รับทราบการจัดตั้งบริษัทย่อยของบริษัท เพื่อดำเนินธุรกิจบริการจัดส่งพัสดุและสินค้าด่วนภายในประเทศชื่อ บริษัท ออลล์ นาว โลจิสติกส์ จำกัดและเปลี่ยนชื่อบริษัท ไดนามิต แมนเนจเม้นท์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทและทำธุรกิจบริหารจัดการคลังสินค้า เป็น บริษัท ออลล์ นาว แมนเนจเม้นท์ จำกัด
ด้านผลประกอบการปี 2561 สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.2561 CPALL มีกำไรสุทธิ 20,929.65 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 2.22 บาท เพิ่มขึ้น 5.13% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 19,907.71 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 2.14 บาท โดยบริษัทฯ มีรายได้รวม 527,860 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.9% จากงวดปีก่อน มาจากการขายสินค้าและค่าบริการที่เพิ่มสูงขึ้นจากธุรกิจร้านสะดวกซื้อ ธุรกิจสนับสนุนอื่นๆ และรายได้จากธุรกิจศูนย์จําหน่ายสินค้าระบบสมาชิกแบบชําระเงินสดและบริการตนเองภายใต้ชื่อ “แม็คโคร”
คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติให้จ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 1.20 บาท รวมเป็นเงินปันผลทั้งสิ้น 10,779.72 ล้านบาท คิดเป็นอัตรา 54% ของกําไรสุทธิจากงบการเงินเฉพาะกิจการและหลังหักภาษีเงินได้ กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล วันที่ 7 พ.ค.62 ขึ้น XD ไม่ได้รับสิทธิปันผลวันที่ 3 พ.ค. 62 และจ่ายเงินวันที่ 22 พ.ค.62