HoonSmart>>โกลบอลกรีนเคมิคอล เปิดผลขาดทุน 1,160 ล้านบาท ปี 2561 บอร์ดอนุมัติให้โอนทุนสำรองตามกฎหมาย ส่วนล้ำมูลค่าหุ้น และลดพาร์จากหุ้นละ 10 บาท เหลือ 9.50 บาท แก้ขาดทุนสะสม 887 ล้านบาท ส่วนปัญหาวัตถุดิบล่องหน บริษัทได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความ ให้คู้ค้าส่งมอบส่วนคงค้างตามเวลาที่ตกลงกัน ลดความเสียหาย
บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล (GGC) เปิดเผยผลการดำเนินงานในปี 2561 ขาดทุนสุทธิ 1,160 ล้านบาท แย่หนักจากปี 2560 ที่มีกำไรสุทธิ 520 ล้านบาท
ทั้งนี้ไตรมาส 4 /2561 มีกำไรสุทธิ 443 ล้านบาท ดีขึ้นจากไตรมาส 3 ที่มีกำไรสุทธิ 185 ล้านบาท และ 9 เดือนแรก ขาดทุนสุทธิ 1,603 ล้านบาท
ทางด้านคณะกรรมการบริษัทฯ (บอร์ด) มีมติอนุมัติการโอนทุนสำรองตามกฎหมายจำนวน 245.62 ล้านบาท และทุนสำรองส่วนล้ำมูลค่าหุ้น จำนวน 219.06 ล้านบาท รวมเป็นเงินจำนวน 464.68 ล้านบาท เพื่อชดเชยผลขาดทุนสะสมจำนวน 887.28 ล้านบาท ตามงบการเงินเฉพาะกิจการ ณ สิ้นปี 2561 คงเหลือขาดทุนสะสม จำนวน 422.59 ล้านบาท
นอกจากนี้ ให้ลดทุนเรียกชำระแล้ว จาก 10,236.66 ล้านบาท เป็น 9,724.83 ล้านบาท
โดยลดมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ (พาร์) จากหุ้นละ 10 บาท เป็น 9.50 บาท ทั้งนี้การลดทุน เป็นการปรับปรุงตัวเลขทางบัญชี และไม่มีการคืนเงินจากการลดทุนให้ผู้ถือหุ้น จึงไม่ส่งผลให้สินทรัพย์ของบริษัทลดลง บริษัทยังคงมีแผนการขยายธุรกิจต่อไป
บอร์ดยังมีมติงดจัดสรรกำไรไปเป็นทุนสำรองตามกฎหมาย เนื่องจาก มีขาดทุนสุทธิสำหรับงบการเงินเฉพาะกิจการในปี 2561 ประมาณ 1,518 ล้านบาท และงดการจ่ายเงินปันผล เพราะมีขาดทุนสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรรจำนวน 887 ล้านบาท
ส่วนปัญหาวัตถุดิบหายไป เมื่อวันที่ 31 ม.ค. 2562 บริษัท ฯ ได้บรรลุข้อตกลงในการชดใช้ความเสียหาย ของกรณีปัญหาการจัดการวัตถุดิบกับคู่ค้าบางราย โดยมีการทำสัญญาประนีประนอมยอมความ ซึ่งกำหนดให้คู่ค้า ส่งมอบวัตถุดิบคงค้าง ส่งตามระยะเวลาที่ตกลงกันในสัญญา
ด้านผลการดำเนินงาน ในปี 2561 ผลผลิตปาล์มน้ำมัน และปริมาณสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบ ทั้งในและต่างประเทศอยู่ในระดับสูง ส่งผลให้ราคาน้ำมันปาล์มดิบ และราคาน้ำมันเมล็ดในปาล์มดิบลดลงมาก ภาครัฐยังคงประกาศใช้ อัตราส่วนผสมน้ำมันไบโอดีเซล B7 ตลอดทั้งปี
อีกทั้งยังออกมาตรการ สนับสนุนให้เกิดการบริโภคน้ำมันปาล์มในประเทศ ทำให้บริษัทผลิตเต็มกำลังการผลิต ส่งผลให้สามารถสร้างยอดขาย ผลิตภัณฑ์เมทิลเอสเทอร์ได้จำนวน 374,922 ตัน เพิ่มขึ้น 344,173 ตัน หรือ 9% ในส่วนผลิตภัณฑ์แฟตตี้แอลกอฮอล์ก็เพิ่มขึ้น โดยมียอดขายรวม 114,784 ตัน เพิ่มขึ้นจำนวน 3,632 ตัน หรือ 3% แต่ราคาขายผลิตภัณฑ์ลดลง ส่งผลให้บริษัทฯ มีรายได้จากการขายจำนวน 16,225 ล้านบาท ลดลง 17% ขณะที่บริษัทฯ มี EBITDA จำนวน 923 ล้านบาท ลดลง 19% จากอัตรากำไรของผลิตภัณฑ์แฟตตี้แอลกอฮอล์ที่ลดลง