ไม่ว่าจะปีไหน เมื่อไร “ความผันผวน” ยังอยู่คู่กับการลงทุนเสมอ เพียงแต่ในปีนี้ วศิน วณิชย์วรนันต์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย มั่นใจว่าความผันผวนจะรุนแรงกว่าในภาวะปกติ เพราะเศรษฐกิจโลกอยู่ในช่วงปลายวัฏจักรของเศรษฐกิจขาขึ้น (Late cycle)
วศิน บอกว่า ในช่วง Late cycle แบบนี้ อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจเริ่มชะลอลง (แต่ยังไม่ได้เข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย หรือ Recession) นอกจากนี้ การเติบโตในแต่ละประเทศไม่สอดคล้องกัน แถมยังมีความเสี่ยงอีกหลายอย่างรออยู่ ไม่ว่าจะเป็น Trade war, สภาพคล่องในตลาดโลกลดลงอย่างต่อเนื่อง และการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ซึ่งอาจส่งผลให้ผลตอบแทนที่คาดหวังจากการลงทุนลดลง
“ในภาวะที่มีความผันผวนสูงแบบนี้ เราแนะนำนักลงทุนให้ใช้กลยุทธ์การลงทุนแบบ 4D” วศิน กล่าว
โดย 4D ประกอบด้วย
D1 : Diversification
การเน้นกระจายความเสี่ยงโดยการลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์
“เวลาที่เราไม่รู้ว่า ตลาดจะไปในทิศทางไหน เราควรกระจายการลงทุน เพราะการมีสินทรัพย์หลากหลายประเภท ซึ่งไม่ได้เคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกัน ช่วยลดความผันผวนของพอร์ตโดยรวมได้” วศิน กล่าว
D2 : Defensive
การลงทุนในสินทรัพย์ที่สามารถสร้างรายได้อย่างสม่ำเสมอแม้ในสภาวะตลาดที่ผันผวน
“ปีนี้เราเน้นการป้องกัน เน้นแนวรับมากกว่าแนวรุก โดยแนะนำการลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ ที่ทนทานต่อความไม่แน่นอนได้ดีกว่าหุ้นเล็ก และสำหรับการลงทุนตราสารหนี้ เราแนะนำตราสารหนี้อายุกลางๆ”
D3 : Duration
การลงทุนและถือครองสินทรัพย์ในระยะเวลาที่เหมาะสม
“Duration ในที่นี้ไม่ใช่อายุของพอร์ต แต่เป็นระยะเวลาการลงทุน เพราะในช่วงเวลาที่มีความผันผวนสูง แทนจะมองสั้นๆ เราต้องอยู่ระยะยาว ลงทุนยาวๆ อย่างน้อย 1-2 ปี เพราะจากสถิติพบว่า หลังจากที่ตลาดปรับลดลงไปแล้วจะใช้เวลา 1-2 ปีในการกลับมา”
D4 : Discipline
การลงทุนโดยยึดหลักความสม่ำเสมอ มีวินัย
“อย่าไปรอ อย่าไปจับจังหวะตลาด อย่าไปคาดหวัง แต่ควรลงทุนเป็นประจำ สม่ำเสมอ และการมีวินัยลงทุน เป็นเรื่องสำคัญมากในช่วงตลาดผันผวน”
“กลยุทธ์การลงทุนแบบ 4D ถือเป็นหัวใจสำคัญที่จะเอาชนะความผันผวนของตลาดในปีนี้และเพื่อให้สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีได้ในระยะยาว เพราะแม้ว่าจะอยู่ในช่วง Late Cycle ก็อย่ากลัวที่จะลงทุน” วศิน กล่าว