INTUCH ยังคงเป็นหุ้นปันผลสูงเกิน 4% ต่อปี จ่ายครึ่งปีหลังอีก 1.17 บาท รวมทั้งปีใช้เงิน 8,689 ล้านบาทตอบแทนผู้ถือหุ้น หลังจากปี 2561 มีกำไรสุทธิ 11,490 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.65% แนวโน้มผลงานในปี 2562 ยอมรับธุรกิจดาวเทียมและธุรกิจต่างประเทศจะอ่อนตัวลง
บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ (INTUCH) เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทฯมีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลอีกหุ้นละ 1.17 บาท คิดเป็นเงินประมาณ 3,752 ล้านบาท ให้กับผู้ถือหุ้นที่มีชื่อในทะเบียนวันที่ 22 ก.พ. กำหนดจ่ายเงินในวันที่ 24 เม.ย. 2562 ทั้งนี้ บริษัทจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลหุ้นละ 1.54 บาท จำนวน 4,938 ล้านบาทรวมทั้งปีแจกหุ้นละ 2.71 บาท ใช้เงินทั้งสิ้น 8,689 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 75% ของกำไรสุทธิในปี 2561 จากปีที่ผ่านมาจ่ายเงินปันผลหุ้นละ 2.52 บาท รวมเป็นเงินประมาณ 8,080 ล้านบาท จ่ายครึ่งปีหลัง 1.27 บาท คิดเป็นเงินประมาณ 4,072 ล้านบาท
ด้านราคาหุ้น INTUCH ปิดที่ 57 บาท บวก 1.50 บาท ณ วันที่ 8 ก.พ.2562 เงินปันผลที่บริษัทจ่ายทั้งปีหุ้นละ 2.71 บาท คิดเป็นอัตราผลตอบแทน 4.75%
สำหรับผลการดำเนินงานปี 2561 อินทัชฯมีกำไรสุทธิ 11,490 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 817 ล้านบาทหรือ 7.65% จากปี 2560 ที่มีกำไรสุทธิ 10,673 ล้านบาท เนื่องจากการรับรู้กำไรพิเศษจากการขายซีเอสแอล 463 ล้านบาท หากไม่รวมกำไรพิเศษดังกล่าวและรายการพิเศษจากการตั้งสำรองด้อยค่าสินทรัพย์ของไทยคม บริษัทจะมีกำไรปกติใกล้เคียงกับปี 2560 ที่ 11,769 ล้านบาท มาจากเอไอเอสเป็นหลักที่มีกำไรจากการดำเนินงาน จำนวน 29,682 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยจากปีก่อน บริษัทไทยคมมีกำไรปกติจากการดำเนินงาน 140 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20 ล้านบาท
ส่วนแนวโน้มการดำเนินงานในปี 2562 คาดว่ารายได้จากธุรกิจดาวเทียมและธุรกิจต่างประเทศจะอ่อนตัวลงจากปี 2561 และตั้งงบลงทุนในบริษัทร่วมลงทุน เวนเจอร์ แคปปิตอล ไม่เกินปีละ 200 ล้านบาท ซึ่งปีที่ผ่านมาได้ใช้เงินลงทุนประมาณ 110 ล้านบาท สำหรับการลงทุน 3 บริษัท ในระยะ 6 ปีที่ผ่านมา ได้ใช้เงินลงทุนไปทั้งสิ้นประมาณ 525 ล้านบาทจากการลงทุนในบริษัท 17 แห่ง ปัจจุบันมูลค่าเงินลงทุนอยู่ที่ประมาณ 792 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51% จากมูลค่าบริษัทที่สูงขึ้นและการรับรู้กำไรจากการขายเงินลงทุนในบางบริษัท ขณะเดียวกันมีการตัดมูลค่าเงินลงทุนในบางบริษัทที่เล็งเห็นว่าต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง