บิวตี้ คอมมูนิตี้ รุกหนักตลาดจีน จับมือพันธมิตร Carrot Mall ตัวแทนจำหน่ายรายใหญ่ “โฟมนม” พร้อมแต่งตั้ง Cross Border E-commerce เจาะตลาดออนไลน์จีนเพิ่ม ผลิตภัณฑ์บิวตี้ได้รับ อย.จีนแล้ว 5 SKUs เดินหน้ากลยุทธ์การตลาด O2O ดันยอดขายโตต่อเนื่อง
ดร.พีระพงษ์ กิติเวชโภคาวัฒน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ (BEAUTY)ผู้นำธุรกิจค้าปลีกผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและบำรุงผิว เปิดเผยว่า บริษัทได้เซ็นสัญญาแต่งตั้ง Carrot Mall ผู้ดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในช่องทางค้าปลีกและออนไลน์รายใหญ่ เป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้า Scentio Milk Plus Whitening Q10 Facial Foam (โฟมล้างหน้าจากสารสกัดน้ำนมบริสุทธิ์) ผ่านช่องทางตลาดหลัก ( General Trade ) แต่เพียงผู้เดียวในประเทศจีน ซึ่งโฟมนมเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมของผู้บริโภคจีนมากที่สุด และมีความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“ตลาดเครื่องสำอางค์ที่จีนมีมูลค่าตลาดรวมสูงกว่า 1.2 ล้านล้านบาท หรือมีขนาดใหญ่กว่าไทยถึง 18 เท่า บริษัทจะทำงานร่วมกับตัวแทนจำหน่าย ทั้งด้านกลยุทธ์การตลาด โปรโมชั่น เชื่อมโยงทุกเครื่องมือการตลาดเข้าหากัน ชูจุดเด่นคุณภาพและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นยอดขายและสร้างการรับรู้กับลูกค้าในวงกว้าง “ดร.พีระพงษ์กล่าว
ปัจจุบันสินค้าของบริษัทจำนวน 5 SKUs ได้รับการรับรองจาก China Food and Drug Administration (CFDA) หรือ องค์การอาหารและยา (อย.) ของประเทศจีนเรียบร้อยแล้ว และจะทยอยได้รับการอนุมัติเพิ่มเติมในปีนี้ ทำให้ลูกค้าเกิดความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ สร้างยอดขายได้ดี และสามารถขยายไปยังช่องทางการขายอื่นๆ Offline และ Online ที่เป็นเว็บไซต์อีคอมเมิรซ์ต่างๆ
นอกจากนี้บริษัทได้มีการขยายช่องทางการจำหน่ายในรูปแบบการซื้อขายออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์ม หรือ Cross Border E-commerce (CBEC) ถือเป็นโอกาสใหม่สำหรับการค้าออนไลน์ในจีนที่รัฐบาลมีมาตรการสนับสนุนอย่างชัดเจน โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มเครื่องสำอาง โดยปิดคลังสินค้าทัณฑ์บน ในพื้นที่เขตการค้าเสรี 13 เมืองใหญ่ ( ข้อมูล ณ ปี 2560 ) เช่น เมืองต้าเหลียน, เหอเฟย, เฉิงตู, ชิงเต่า และซูโจว เพื่อให้ผู้ค้าออนไลน์นำสินค้ามาพักไว้แบบไม่ต้องเสียภาษี เมื่อมีลูกค้าสั่งซื้อสินค้าแล้วต้องนำสินค้าออกจากคลังจึงเสียภาษีในอัตราพิเศษ โดยในปี 2561 บริษัทมีสินค้าวางจำหน่ายแล้วจำนวน 7 แพลตฟอร์ม และในปีนี้เพิ่มอีก 2แพลตฟอร์ม รวมถึงเพิ่ม SKUs ในการขาย
ดร.พีระพงษ์ กล่าวต่อไปว่า บริษัทจะมุ่งเน้นขยายช่องทางการจัดจำหน่ายใหม่ในประเทศจีน ผ่าน 3 ช่องทางหลัก ได้แก่ การจำหน่ายผ่านช่องทาง CBECการจำหน่ายผ่านช่องทางตลาดหลัก ทั้งในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ เช่น เทรดดิชั่นนอลเทรด คอนวีเนียนสโตร์ โมเดิร์นเทรด และการจำหน่ายทั้งแบบค้าปลีกและค้าส่งผ่านลูกค้ารายย่อยหรือนักท่องเที่ยวจีน โดยใช้กลยุทธ์การตลาดแบบ O2O (Online to Offline synchronization) ในการช่วยกระตุ้นยอดขายอย่างมีประสิทธิภาพ เชื่อว่าจะเพิ่มยอดจำหน่าย จากการหาซื้อผลิตภัณฑ์ได้สะดวกและแพร่หลาย