โดย…นพ. พุฒิพงศ์ ภูมิสุวรรณ
ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาบิทคอยน์ เคลื่อนไหวในกรอบ $3,500-$3,700 และดูเหมือนมีรายใหญ่ หรือพวก Whale ควบคุมอยู่ เพราะลักษณะการเคลื่อนไหวมีลักษณะแบบ Pump and Dump หลายครั้ง คือ ทุบลง หรือดึงราคาขึ้น ครั้งละ $100-200 สลับไปมา เนื่องจากช่วงนี้ยังไม่มีข่าวดีอะไรมาสนับสนุนตลาด
ลักษณะตลาดที่เคลื่อนไหวกรอบแคบ ๆ มูลค่าการซื้อขายไม่มาก และไม่มีข่าวอะไรที่ชัดเจน จึงเป็นช่วงที่รายใหญ่ เข้ามา manipulate ได้ง่าย ราคาบิทคอยน์ขณะที่เขียนบทความ เคลื่อนไหวอยู่ประมาณ $3,700 โดยมีแนวโน้มราคาที่อาจไหลลงได้ทุกเมื่อ โดยเฉพาะหากมีข่าวการเลื่อนพิจารณา Bitcoin ETF ที่ทางก.ล.ต.สหรัฐ ยังค้างพิจารณาอยู่อีกหลายตัวออกไป จากสาเหตุปัญหา U.S. Government shutdown ซึ่งตามกำหนด ต้องประกาศผลพิจารณาในเดือนกุมภาพันธ์นี้

นอกจากนี้ ข่าวการถูกแฮกเกอร์ โจมตี ก็ยังมีอยู่เนือง ๆ ล่าสุดเวป ซื้อขายสัญชาตินิวซีแลนด์ ชื่อ Cryptopia ก็โดนแฮก และสูญเสียไปกว่า 3.5 ล้านเหรียญ
สำหรับเมืองไทย ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการประกาศจากสำนักงานก.ล.ต. ปฏิเสธการให้ใบอนุญาตแก่ CoinAsset ซึ่งเหรียน JFIN เทรดอยู่ ทำให้ JFIN Coin ซึ่งเทรดอยู่แถว ๆ 1.60 บาท ถูกเทขายลงไปเหลือเพียง 0.76 บาท ก่อนค่อย ๆ ฟื้นตัวกลับมาแถว 1.25 บาท ( ขณะเขียนบทความ )
หลังจากทางบริษัท JVC ผู้ออก JFin Coin ได้ออกประกาศให้ผู้ถือเหรียญ JFIN สามารถโอนเหรียญออกไปเก็บไว้ที่ JFIN wallet หรือ LedgerNanoS หรือที่ MyEther Wallet (MEW) ก่อน เพื่อรอหา Exchange ใหม่ หรือกลับไปเทรดที่ CoinAsset หากยื่นขออนุญาตรอบ 2 ผ่านการพิจารณา
ซึ่งอันที่จริง การโอนย้ายเหรียญ JFIN ก็ไม่ยากอะไร และค่าธรรมเนียมก็ไม่แพง แต่สำหรับนักลงทุนที่ไม่คุ้นเคยกับเงินดิจิทัล การโอนย้ายเหรียญแบบนี้ คงปวดหัวพอควรเลยครับ
ขณะเขียนบทความ ราคาบิทคอยน์ในเมืองไทย มีการซื้อขายกันอยู่แถว ๆ 118,000 บาท ใกล้เคียงกับสัปดาห์ก่อน และ Ethereum เคลื่อนไหวอยู่แถว ๆ 3,900 บาท ลดลงจากสัปดาห์ก่อนประมาณ 5 %

Disclaimer: เนื้อหาในบทความนี้ เขียนจากความรู้และประสบการณ์ส่วนตัวของผู้เขียน ไม่ใช่คำแนะนำด้านการเงินหรือการลงทุน และผู้เขียน ก็มิได้เป็นผู้แนะนำด้านการเงินการลงทุน ผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณก่อนตัดสินใจลงทุน
