เปิดโพย 6 หุ้นใหญ่ต่างชาติจ้องซื้อ รีบเก็บคืน ราคาต่ำกว่าเป้า

CPALL-KBANK-BBL-ADVANC-PTT-PTTEP เป้าหมายต่างชาติจ้องเข้ามาซื้อรอบนี้ หลังจากชอร์ตไปก่อนหน้า ราคาหุ้นต่ำกว่าพื้นฐาน ธุรกิจมีแนวโน้มเติบโต จ่ายเงินปันผลที่ดี สัปดาห์ที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติยังซื้อหุ้นต่อเนื่อง 7 วันทำการ ร่วม 10,929.85 ล้านบาท

นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บล.ซี แอล เอส เอ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า เม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติจะไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นเกิดใหม่ในปีนี้ จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ย รวมถึงสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนมีแนวโน้มที่ดี ซึ่งตลาดหุ้นไทยถือเป็นตลาดแห่งหนึ่งที่น่าสนใจ โดยหุ้นที่นักลงทุนต่างชาติสนใจจะลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ ได้แก่กลุ่มแบงก์ มองว่าแนวโน้มสินเชื่อโตตามเศรษฐกิจของประเทศ รวมถึงยังจะได้รับผลดีจากการลงทุนจากภาครัฐ การตั้งสำรองก็ไม่มีปัญหา และธนาคารก็มีการปรับตัวได้ดีเกี่ยวกับการนำระบบดิจิทัลเข้ามาใช้ โดยหุ้นที่เด่นในกลุ่มนี้ได้แก่ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) และธนาคารกรุงเทพ (BBL)

นายปริญญ์ กล่าวอีกว่า กลุ่มค้าปลีกก็มีความสนใจ เพราะการบริโภคในประเทศที่ดีขึ้น โดยแนะนำหุ้นบริษัทซีพี ออลล์ (CPALL) เป็นหุ้นเด่นในกลุ่ม ขณะที่กลุ่มสื่อสาร จะมีหุ้นบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) เป็นหุ้นเด่น เนื่องจากเป็นผู้นำในธุรกิจ และยังมีการจ่ายเงินปันผลที่โดดเด่นอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม นายปริญญ์ กล่าวว่า เรื่องการเมืองของไทยเป็นปัจจัยที่นักลงทุนต่างชาติกำลังติดตาม และให้น้ำหนักต่อการลงทุน โดยต่างชาติรอดูการเลือกตั้ง และรัฐบาลใหม่ที่จะเข้ามาบริหารประเทศจะมีนโยบายอย่างไร

นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ กล่าวว่า หุ้นที่นักลงทุนต่างชาติสนใจลงทุนเป็นหุ้นขนาดใหญ่และอยู่ใน SET50 เป็นหลัก มีสภาพคล่องสูง ซึ่งหุ้นใหญ่หลายตัวราคาต่ำกว่ามูลค่าพื้นฐาน และมีการจ่ายเงินปันผลที่ดีด้วย

นายเกียรติก้อง เดโช นักกลยุทธ็ บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า แรงซื้อกลับจากนักลงทุนต่างชาติ จะมีเข้ามาต่อเนื่อง เพราะราคาหุ้นขนาดใหญ่หลายตัวมีส่วนลดมาก เมื่อเทียบกับราคาเป้าหมายที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้ และหุ้นบางบริษัทราคาก็ตอบรับกับปัจจัยลบไปแล้ว เช่นหุ้นบริษัท ปตท.(PTT) และหุ้นบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม(PTTEP) ซึ่งที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันปรับตัวลง คาดว่าราคาน้ำมันในตลาดโลกปีนี้น่าจะอยู่ประมาณ 65-70 เหรียญต่อบาร์เรล

“ผมว่าแรงซื้อของต่างชาติยังมีเข้ามาอีก เพราะราคาหุ้นใหญ่หลายตัวมีความน่าสนใจ อย่างหุ้น PTT และ PTTEP ที่ปรับตัวลงไปมากช่วงที่ผ่านมา ราคาได้สะท้อนปัจจัยลบแล้ว แรงซื้อของต่างชาติบางส่วนเป็นการซื้อกลับหลังจาก Covered Short” นายเกียรติก้อง กล่าว

เขา กล่าวอีกว่า หุ้นสื่อสารยังเป็นที่สนใจของต่างชาติ แม้จะมีปัจจัยเกี่ยวกับการขยายโครงข่าย ซึ่งจะต้องใช้เงินลงทุนอย่างมาก โดยเฉพาะหุ้น ADVANC ซึ่งเป็นหุ้นใหญ่และมีแนวโน้มผลประกอบที่ดี รวมถึงมีการจ่ายเงินปันผลอย่างต่อเนื่อง ส่วนหุ้นแบงก์ยกให้ KBANK เป็นหุ้นเด่น สินเชื่อมีการเติบโตที่ดี

จากข้อมูลในเว็บไซต์ SETTRADE ราคาเฉลี่ยหุ้นจาก IAA Consensus ยังสูงกว่าราคาหุ้นในปัจจุบันกว่า 15-29% โดยหุ้น CPALL โบรกเกอร์ 8 รายแนะนำซื้อ ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 86.50 บาท, หุ้น KBANK โบรกเกอร์ 8 รายแนะนำซื้อ ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 238 บาท

หุ้น BBL โบรกเกอร์ 6 รายแนะนำซื้อ ราคาเฉลี่ยที่ 243 บาท, หุ้น ADVANC โบรกเกอร์ 12 รายแนะนำซื้อ และมี 3 รายแนะนำถือ ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 212 บาท, หุ้น PTT โบรกเกอร์ 8 รายแนะนำซื้อ และมี 3 รายแนะนำถือ ราคาเฉลี่ยที่ 56.59 บาท และหุ้น PTTEP โบรกเกอร์ 16 รายแนะนำซื้อ และมี 4 รายแนะนำถือ ในราคาเฉลี่ย 145.20 บาท

ทางด้านนักลงทุนต่างชาติยังคงเข้ามาซื้อหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง 7 วันทำการ (10-18 ม.ค.) มียอดซื้อสุทธิ 10,929.85 ล้านบาท โดยเฉพาะวันศุกร์ที่ผ่านมา ซื้อมากถึง 2,902 ล้านบาท ส่วนสถาบันไทยขายมากถึง 2,737 ล้านบาท

ตลาดหลักทรัพย์ รายการหุ้นที่มีการขายล่วงหน้าหรือ ชอร์ตเซล ระหว่างวันที่ 14-17 ม.ค.2562 มีหุ้น ADVANC จำนวน 1,308,200 หุ้น มูลค่า 221.67 ล้านบาท, หุ้น CPALL จำนวน 2,367,400 หุ้น มูลค่า 176.16 ล้านบาท

หุ้น BBL จำนวน 204,900 หุ้น มูลค่า 42.12 ล้านบาท, หุ้น KBANK จำนวน 1,537,500 หุ้น มูลค่า 280.24 ล้านบาท, หุ้น PTT จำนวน 1,381,000 หุ้น มูลค่า 65.91 ล้านบาท และหุ้น PTTEP มูลค่า 4,782,500 หุ้น มูลค่า 582.88 ล้านบาท