“อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค” เดินหน้าซื้อกิจการยักษ์ใหญ่ IT “S-TREK” เข้าถือหุ้น 51% พร้อมรับรู้รายได้ทันทีปี 62 หลังบอร์ดไฟเขียวปรับเงื่อนไข ‘สวอปหุ้น’ ชำระราคาลอตแรกที่ 5 บาท เตรียมขออนุมัติผู้ถือหุ้น 5 เม.ย.62 เตรียมขึ้นแท่นขยายธุรกิจไอที
นายอารักษ์ สุขสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค (ECF) เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทฯ อยู่ระหว่างการเตรียมงานร่วมกับ S-TREK ตามแผนงานที่กำหนดไว้ เตรียมเสนอวาระการพิจารณาเข้าลงทุนในหุ้น S-TREK ต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้น และรอรายงานให้ความเห็นต่อการเข้าลงทุนซึ่งอยู่ระหว่างการจัดทำโดยที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ
“การเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้ บริษัทคาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้และส่วนแบ่งกำไรทันทีในปี 2562 โดยในปี 2560 ที่ผ่านมา STREK มีรายได้รวมประมาณ 4,848 ล้านบาท ดังนั้นการเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้ จึงถือเป็นกลยุทธ์สำคัญในการสร้างการเติบโต โดยจะส่งผลต่อตัวเลขการดำเนินงานของ ECF อย่างมีนัยสำคัญ นายอารักษ์ กล่าว
บริษัท เอสเทรค (ประเทศไทย) จำกัด (“S-TREK”) เป็นผู้ดำเนินธุรกิจด้าน IT Solution ในการเป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้าไอที ให้กับบริษัทชั้นนำระดับโลก มายาวนานกว่า 30 ปี รวมถึงมีช่องทางการจัดจำหน่ายที่ครอบคลุมทั่วประเทศไทย โดยมีผลิตภัณฑ์พร้อมจำหน่ายมากกว่า 5,000 รายการ และมีกลุ่มลูกค้าทั้งในกรุงเทพมหานครและทั่วประเทศไทย มากกว่า 4,000 ร้านค้า
ทั้งนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติพิจารณาอนุมัติปรับเงื่อนไขการเข้าลงทุนในหุ้น S-TREK เมื่อวันที่ 16 ม.ค. 2562 โดยแบ่งการชำระราคาเป็น 2 ส่วน ในมูลค่าลงทุนรวมทั้งหมด 510 ล้านบาท เพื่อให้ได้มาซึ่งหุ้นของ S-TREK ร้อยละ 51
สำหรับเงื่อนไขที่เปลี่ยนแปลงคือการชำระราคาในส่วนที่ 1 จำนวน 204 ล้านบาท บริษัทฯ จะใช้วิธีการออกหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง เพื่อจ่ายชำระราคาให้กับนายจิรศักดิ์ ในจำนวน 40.8 ล้านหุ้น ในราคาที่ตกลงร่วมกันแล้ว คือ หุ้นละ 5 บาท โดยมีราคาถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักย้อนหลัง 7 วันทำการก่อนวันที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯในครั้งนี้ เท่ากับ 2.28 บาท ซึ่งได้ผ่านการพิจารณาอนุมัติจากคณะกรรมการบริษัทฯ และเป็นราคาที่มีการเจรจาต่อรองระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในส่วนของหุ้นเพิ่มทุนเพื่อชำระราคาส่วนที่ 1 นี้ จะเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นวันที่ 5 เมษายน 2562 นี้ คาดว่าการชำระราคาส่วนนี้จะแล้วเสร็จภายในไตรมาสที่ 2 ปี 2562
สำหรับการจ่ายชำระราคาในส่วนที่ 2 ในมูลค่าจำนวน 306 ล้านบาท บริษัทฯ มีเงื่อนไขที่ตกลงร่วมกันกับ S-TREK ว่าจะต้องสร้างผลกำไรสุทธิ (เฉพาะกำไรที่เกิดขึ้นจากการดำเนินธุรกิจปกติด้านไอทีของ S-TREK) สำหรับงบการเงินงวด 12 เดือน ปี 2562 หรือ ปี 2563 หรือปี 2564 หากมีปีใดปีหนึ่ง เข้าเงื่อนไขสามารถสร้างกำไรสุทธิดังกล่าวได้มากกว่า 100 ล้านบาท ECF จะขอพิจารณาอนุมัติจากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ และที่ประชุมผู้ถือหุ้นเป็นลำดับต่อไป เพื่อพิจารณาการออกหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจงให้กับนายจิรศักดิ์ ในมูลค่าที่เหลืออีกจำนวน 306 ล้านบาท โดยกำหนดหลักการราคาหุ้นที่จะเสนอเพื่อจ่ายชำระราคาเป็นไปตามราคาตลาดของหุ้นของบริษัทฯ ณ ขณะนั้น ตามเงื่อนไขของราคาตลาดที่กำหนดตามเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ คาดว่าการชำระราคาส่วนที่สองนี้จะแล้วเสร็จไม่เกินไตรมาสที่ 2 ปี 2565
อนึ่ง จากเหตุการณ์ราคาหุ้นของ ECF ที่ปรับตัวลดลงเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นหลังการพิจารณาอนุมัติของคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2561 เป็นเรื่องของกลไกราคาตลาดที่ไม่สามารถควบคุมได้ ซึ่งขณะนั้นราคาตลาดของบริษัทฯ ที่ใช้ในการพิจารณาอนุมัติขณะนั้นอยู่ที่ 5.99 บาท ซึ่งมติที่ประชุมคณะกรรมการฯ อนุมัติการออกหุ้นเพื่อชำระราคาให้กับ S-TREK ที่ 7 บาทต่อหุ้น
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้พิจารณาเพื่อให้การเข้าซื้อกิจการดำเนินไปได้แผนงานที่วางไว้ ECF และเพื่อให้เกิดความยุติธรรมต่อผู้ขาย คือ นายจิรศักดิ์ ในฐานะผู้ขายและผู้ถือหุ้นใหญ่ของ S-TREK บริษัทฯ จึงขอพิจารณาอนุมัติจากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ใหม่อีกครั้ง โดยในครั้งนี้ ราคาตลาดของบริษัทฯ ที่ใช้ในการพิจารณาอนุมัติอยู่ที่ 2.28 บาท ซึ่งมติที่ประชุมคณะกรรมการฯ อนุมัติการออกหุ้นเพื่อชำระราคาให้กับ S-TREK ที่ 5 บาทต่อหุ้น ในจำนวน 40.8 ล้านหุ้น สำหรับการจ่ายชำระราคาในส่วนที่ 1
อ่านประกอบ