MTC – SAWAD กอดคอร่วง กังวลการบันทึกค่างวดลูกหนี้ผิดที่ชำระหนี้ไม่ปกติ บล.เอเซียพลัส แนะนำ ซื้อ ชี้ ทั้ง 2 บริษัทปรับวิธีการจัดชั้นลูกหนี้ ตามปกติอยู่แล้ว
ราคาหุ้นบริษัท เมืองไทย แคปปิตอล ( MTC ) ถูกเทขายออกมาตั้งแต่เปิดตลาดเช้า ท่ามกลางมูลค่าซื้อขายหนาแน่น โดยราคาหุ้นร่วงไปลึก 42.50 บาท ลดลง 3.50 บาท กระทั่งล่าสุดเวลา 15.06 น. มีแรงซื้อเข้ามารับ ราคาหุ้นเด้งขึ้นมาอยู่ที่ 45.75 บาท ลดลง 0.25 บาท หรือ 0.54 % มูลค่าซื้อขาย 1,187.34 ล้านบาท
ขณะเดียวกันหุ้น ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น ( SAWAD ) มีแรงขายออกมาเช่นกัน ราคาหุ้นลงไปต่ำสุด 45 บาท ลดลง 1.75 บาท ล่าสุดเวลา 15.08 น.ราคาอยู่ที่ 46 บาท ลดลง 0.75 บาท หรือ 1.60 % มูลค่าซื้อขาย 453.24 ล้านบาท
นักวิเคราะห์ บล.เอเซียพลัส ( ASPS ) กล่าวว่า นักลงทุนตื่นขายหุ้น 2 บริษัท ออกมา จากสาเหตุความกังวลเรื่องวิธีการบันทึกค่างวดของลูกหนี้ที่ชำระหนี้ไม่ปกติ และได้รับการยืนยันว่า ปัจจุบันทั้ง 2 บริษัท ปฏิบัติตามที่ทางการขอความร่วมมือ คือ ค่างวดที่ได้รับชำระจะนำไปตัดทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยค้างจ่าย (ต่างจากกรณี TISCO ที่ตัดดอกเบี้ยฯ ก่อนจนครบ แล้วค่อยตัดเงินต้น) ทำให้ไม่ต้องจัดชั้นลูกหนี้เป็น NPL และไม่กระทบต่อการรับรู้รายได้ดอกเบี้ยรับของบริษัท ยังแนะนำ “ซื้อ”
MTC (FV @ B56) SAWAD (FV @ B55)
ด้านฝ่ายวิเคราะห์ บล.เมย์แบงก์กิมเอ็ง (ประเทศไทย ) มองว่า MTC ไม่ได้รับผลกระทบ ไม่ต้องปรับวิธีการจัดชั้นลูกหนี้ตาม TISCO เพราะเป็นสิ่งที่ทำถูกต้องอยู่แล้ว โดยคุณภาพลูกหนี้ยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ เทียบกับ 3Q61
ลูกหนี้ที่ค้างชำระ 0-1 เดือน คิดเป็นสัดส่วน 90% ของพอร์ตสินเชื่อ , ค้างชำระ 1-3 เดือน สัดส่วน 8.5% ของพอร์ตสินเชื่อ (ส่วน 2-3 เดือนราว 2%) และค้างชำระ >3 เดือน (NPL) คิดเป็นสัดส่วน 1.5% ของพอร์ตสินเชื่อ
MTC ยังไม่มีนโยบายการทำ Treasury stock หรือ ซื้อหุ้นคืน และใบอนุญาต P-loan ใหม่ คาดได้รับภายในช่วงสิ้นเดือนนี้
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า ล่าสุดจากการประชุมทางโทรศัพท์กับผู้บริหาร การจัดชั้นลูกหนี้ของ MTC เป็นไปตามเกณฑ์ของธปท.อยู่แล้ว ซึ่งแตกต่างจาก TISCO ดังนั้น MTC จึงไม่มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนการจัดชั้นลูกหนี้ ขณะที่ NPL ผู้บริหารยืนยันว่าระดับ NPL ทรงตัวจาก 3Q ที่ราว 1.3% และเป้าหมายทั้งปี 2561 ไม่เกิน 1.5% ดังนั้นราคาหุ้นมีโอกาสฟื้นตัวได้ในช่วงบ่าย