EARTH : ผู้ถือหุ้นพบผู้บริหารเคลียร์ประเด็นคาใจ ร่วมกอบกู้ธุรกิจ

ผู้ถือหุ้น EARTH พบผู้บริหาร เคลียร์ทุกประเด็นคาใจ พร้อมร่วมกอบกู้ธุรกิจ รอหุ้นกลับมาเทรด

รายงานข่าวจาก บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ ( EARTH ) เปิดเผยว่า กลุ่มผู้ถือหุ้น EARTH นำโดย นายสิทธิชัย เจิดอำไพ ได้เข้าพบนายสาวิน จินดากุล ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการบริษัท และนายขจรพงศ์ คำดี อดีตประธานกรรมการบริหาร เพื่อติดตามความคืบหน้าในการเจรจาขอวงเงินสินเชื่อกับสถาบันการเงิน และแผนการปรับโครงสร้างหนี้กับสถาบันการเงิน ภายหลังจากเข้าพบธนาคารกรุงไทย

ผู้บริหารบริษัท ฯ ระบุว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างรอกลุ่มธนาคารประชุม เกี่ยวกับกระบวนการควบคุมการเงินและกระแสเงินสด (Cash Monitoring) ให้แล้วเสร็จ ซึ่งหากกลุ่มธนาคารเรียกเข้าร่วมประชุม บริษัทฯ ก็พร้อมร่วมประชุม เพื่อรับฟังกระบวนการต่าง ๆ เพื่อให้ธุรกิจเดินหน้าโดยเร็ว ตามแผนที่ได้แจ้งไว้แก่ผู้ถือหุ้นสามัญเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2561

ทั้งนี้ หากยังไม่ได้รับแจ้งให้เข้าร่วมประชุมภายในสิ้นเดือนมกราคมนี้ บริษัทฯ จะดำเนินการเจรจากับธนาคารเป็นราย ๆ ไป และไม่รอมติจากคณะกรรมการร่วมของธนาคารที่กำลังเจรจากันอยู่ เนื่องจากเห็นว่า หากปล่อยเวลาเนิ่นนานไป อาจทำให้เสียโอกาสทางธุรกิจ ซึ่งผู้ถือหุ้นพอใจกับคำตอบที่ได้รับและจะเฝ้าติดตามความคืบหน้าจากสถาบันการเงินต่อไป

สาวิน จินดากุล

สำหรับประเด็นการตัดวงเงินสินเชื่อจากสถาบันการเงินแห่งหนึ่ง ผู้บริหารบริษัทฯ แจ้งว่า อดีตประธานกรรมการบริหารของบริษัทฯ ได้รับหมายเรียกให้เป็นพยานในคดีที่ผู้ถือหุ้นฟ้องธนาคารกรุงไทยแบบกลุ่ม (Class Action) เรื่องการตัดวงเงินสินเชื่อจนเป็นเหตุให้บริษัทฯ และผู้ถือหุ้นได้รับความเสียหาย โดยจะไปเป็นพยานในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2562 ที่ศาลแพ่งกรุงเทพใต้

ส่วนการอายัดบัญชีเงินฝากธนาคารธนชาตเมื่อเดือนธันวาคม 2561 ที่ผ่านมา อาจทำให้ผู้ถือหุ้นกู้บางส่วนที่จะได้รับเงินในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2562 ไม่ได้รับเงิน ซึ่งผู้บริหารบริษัทฯ ได้แจ้งว่า ฝ่ายกฎหมายของบริษัทฯ ได้ทำเรื่องขอให้ยกเลิกคำสั่งอายัดและจะมีการไต่สวนในวันที่ 23 มกราคม 2562 ที่ศาลแพ่งกรุงเทพใต้

นอกจากนี้ ได้แจ้งผู้ถือหุ้นเพิ่มเติมว่า อดีตประธานกรรมการบริหารของบริษัทฯ ได้รับหมายเรียกให้ไปเป็นพยานในคดีอาญาที่ผู้ถือหุ้นรายหนึ่งได้ฟ้องผู้บริหารธนาคารกรุงไทย 2 ท่าน ในคดีเบิกความเท็จต่อศาล กระทั่งศาลทรัพย์สินและการค้าระหว่างประเทศ เชื่อและมีคำสั่งอายัดเงินในบัญชี โดยได้ไปเบิกความเป็นพยานแล้วที่ศาลอาญารัชดาเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2561 และศาลนัดฟังคำสั่งว่ามีมูลหรือไม่ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2562

ทั้งนี้เพื่อไม่ให้เป็นเหตุแห่งการขออายัดจากสถาบันการเงินได้อีก คณะกรรมการบริษัทฯ จึงได้มีมติให้ยกเลิกการโอนเงิน เพื่อทำการค้าไปยังบริษัทย่อยที่ประเทศจีน ซึ่ง Earth ถือหุ้น 100% ตามที่ได้รับการอนุมัติจากธนาคารแห่งประเทศไทยและธนาคารแห่งประเทศจีนแล้วนั้น โดยให้นำเงินดังกล่าวไปทำธุรกิจภายใต้บริษัท Earth

ขณะที่ประเด็นการยื่นอุทธรณ์แผนฟื้นฟู ผู้บริหารบริษัทฯ แจ้งผู้ถือหุ้นว่า ฝ่ายกฎหมายของบริษัทฯ จะดำเนินการในสิ่งที่เกิดประโยชน์สูงสุดแก่บริษัทฯ และผู้ถือหุ้น และเห็นด้วยกับแนวทางที่ผู้ถือหุ้นนำเสนอ ซึ่งขณะนี้รอดูแนวโน้มของเจ้าหนี้รายใหญ่ว่าจะดำเนินการอุทธรณ์หรือไม่ เพื่อจะได้ประสานเข้าปรึกษาหารือกันต่อไป

ส่วนประเด็นการตรวจสอบเหมืองถ่านหิน ที่ประเทศอินโดนีเซียของบริษัทฯ ที่พบว่ามีอยู่จริงและเป็นเจ้าของ 100% โดยมีปริมาณสำรองถ่านหินอยู่กว่า 214,000,000 ตันนั้น บริษัทฯ แจ้งผู้ถือหุ้นว่า ที่ผ่านมาบริษัทฯ ไม่ได้ตอบโต้ผ่านสื่อจึงทำให้ได้รับข่าวสารด้านลบเพียงด้านเดียว ซึ่งช่วงนั้นบริษัทฯ ต้องปฏิบัติตามคำสั่งของศาลโดยห้ามให้ข่าวในเชิงกระทบกระทั่งกัน

ขณะนี้บริษัทฯ ได้ฟ้องดำเนินคดีแก่สถาบันการเงินแห่งหนึ่งไปแล้ว ประเด็นการตัดเงินจากบัญชีเงินฝากธนาคารของบริษัทฯ หลังจากศาลล้มละลายกลางได้รับเรื่องการยื่นขอฟื้นฟูกิจการและได้รับการคุ้มครอง ขณะนี้อยู่ในกระบวนการของศาล และได้ยืนยันกับผู้ถือหุ้นว่า บริษัทฯ จะมีการดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและอาญากับบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องทำให้บริษัทเสื่อมเสียชื่อเสียงในเร็วๆนี้ ทำให้ผู้ถือหุ้นพอใจและยินดีมาร่วมช่วยกอบกู้บริษัทให้กลับมาดำเนินธุรกิจและซื้อขายได้ดังเดิม

อย่างไรก็ตามผู้บริหารมีความมั่นใจว่าบริษัทฯ ยังมีศักยภาพและความแข็งแกร่ง สามารถดำเนินธุรกิจให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งธุรกิจถ่านหินในประเทศจีนมีคำสั่งซื้อเข้ามาเพิ่มมากขึ้น ส่วนทีประเทศไทยคาดว่า จะมีการส่งสินค้า (Shipment) แรกในเดือนมกราคมนี้ หรืออย่างช้าไม่เกินเดือนกุมภาพันธ์ เพื่อทวงแชมป์ประเทศไทยคืนตามที่ได้มีการแจ้งไว้ในที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2561