นักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มการแพทย์ โรงพยาบาลต่อเนื่องวันที่ 2 กังวลคุมราคายา “โนมูระพัฒนสิน” ประเมินรายได้ค่ายาลดลง 5% กระทบกำไรกลุ่มประมาณ 5-10% กรณีรับประสังคมช่วยหนุน ชี้ราคาตอบรับข่าวลบไปแล้ว คงมุมมองบวกต่อกลุ่มการแพทย์ “เคทีบี” คงคำแนะนำซื้อ BCH และ EKH ด้านหยวนต้า” แนะรอดูยังไม่ต่องรีบซื้อ
ความเคลื่นไหวราคาหุ้น BDMS ณ เวลา 10.12 น. อยู่ที่ 22.10 บาท -0.60 บาท หรือ -2.64% BH อยู่ที่ 170.50 บาท -5.50 บาท หรือ -3.12% BCH อยู่ที่ 15.10 บาท -0.70 บาท หรือ -4.43% CHG อยู่ที่ 1.79 บาท -0.06 บาท หรือ -3.24% VIH อยู่ที่ 6.40 บาท -0.25 บาท หรือ -3.76% และ EKH ออยู่ที่ 5.35 บาท -0.20 บาท หรือ -3.60%
บริษัทหลักทรัพยโนมูระพัฒนสิน มีมุมมอง Negatibe sentiment ต่อมติคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เพิ่มสินค้าและเวชภัณฑ์ รวมทั้งบริการทางการแพทย์เข้ามาในบัญชีสินค้าและบริการควบคุม รวมทั้งตั้งคณะอนุกรรมการเพิ่อหามาตรการดูแลให้มีความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เนื่องจากรายได้ค่ายาเฉลี่ยของกลุ่มการแพทย์มีสัดส่วนราว 20-30% และรายได้ค่า lab/เวชภัณฑ์มีสัดส่วน 10-15% ทำให้ตลาดกังวลต่อผลกระทบที่จะเกิดขึ้น หากรัฐมีมาตรการเพิ่มเติมสำหรับคุมราคายาและค่าบริการทางการแพทย์
ในเบื้องต้นประเมินกรณีรายได้ค่ายาลดลง -5% จะกระทบประมาณกำไรของกลุ่มประมาณ 5-10% ทั้งนี้โรงพยาบาลที่ให้บริการลูกค้าประกันสังจะมีฐานรายได้ประกันสังคมช่วยลดผลกระทบจากกลุ่มเงินสด โดยมองว่าการปรับตัวลงของกลุ่มการแพทย์เมื่อวานนี้ตอบรับเชิงลบไปพอสมควร
บล.โนมูระ พัฒนสิน คงมุมมองต่อปัจจัยพื้นฐานกลุ่มการแพทย์ที่ศึกษา “Bullish” เนื่องจากมองว่าการคุมราคายาและค่าบริการทางการแพทย์ต้องใช้เวลาพิจารณาอย่างละเอียดและน่าจะเกิดขึ้นยาก
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) คงน้ำหนักการลงทุนในกลุ่มโรงพยาบาลเป็น “เท่ากับตลาด” เนื่องจากมองว่าตลาดได้รับรู้ปัจจัยดังกล่าวแล้ว อีกทั้งประเด็นดังกล่าวยังต้องติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมอีก และหากมีการควบคุมราคาจริง คาดยังคงต้องใช้เวลาในการหาข้อสรุปร่วมกันของหลายฝ่าย ซึ่งจะเป็นปัจจัยกดดันราคาหุ้น จนกว่าจะมีความชัดเจน ทั้งนี้ยังคงชอบ BCH และ EKH คงคำแนะนำ ซื้อ ที่ราคาเหมาะสม 21.40 และ 7.40 บาท ตามลำดับ
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) คงน้ำหนักการลงทุน “เท่ากับตลาด” 1) กรมการค้าภายในประกาศมีมติให้ยาและเวชภัณฑ์ และค่าบริการของโรงพยาบาล เป็นสินค้าควบคุม ซึ่งจะต้องเสนอต่อครม.พิจารณาต่อไปในสัปดาห์หน้า กลายเป็น sentiment เชิงลบ 2) แนะนำให้ติดตามรายละเอียดของการควบคุม เพราะโครงสร้างลูกค้าและต้นทุนของแต่ละโรงพยาบาลแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ โดยมองว่าการผลักดันมาตรการดังกล่าวอาจไม่ง่ายในทางปฎิบัติ และอาจต้องใช้เวลา ทั้งนี้ 3) เชิงกลยุทธ์ระยะสั้น แม้ว่ากลุ่มโรงพยาบาลวานนี้ปรับตัวลง 6% แล้วแต่การฟื้นตัวก็เป็นไปได้อย่างจำกัด แนะนำให้นักลงทุน Wait&See ไปก่อน โดยเฉพาะ BDMS – BH ที่ฐานลูกค้าเป็นกลุ่มเงินสด
“เชิงกลยุทธ์เรามองว่ากลุ่มโรงพยาบาลจะถูกกดดันจากประเด็นนี้ไปอีกระยะหนึ่งจนกว่าจะมีความชัดเจน ทำให้เราแนะนำ Wait&See กลุ่มโรงพยาบาลออกไปก่อน แม้ว่าในเชิงปัจจัยพื้นฐานมองว่า BCH (BUY – TP23.20 THB) จะเป็นโรงพยาบาลที่ได้รับผลกระทบจากกรณีดังกล่าวน้อยกว่า BDMS – BH ที่ฐานลูกค้าเป็นกลุ่มเงินสด เพราะด้วยโครงสร้างรายได้ของ BCH ราว 33% เป็นกลุ่มลูกค้าประกันสังคม อีกราว 67% จากกลุ่มลูกค้าเงินสด”บล.หยวนต้า ระบุ