ดัชนีดาวโจนส์ผันผวนพลิกมาบวกแรงเกือบ 1% จากระหว่างวันร่วงกว่า 100 จุด คาดต่อเวลาปรับขึ้นดอกเบี้ย หลังจากตัวเลขการจ้างงานเดือนเม.ย.น้อยกว่าคาด แรงกดดันสงครามการค้าสหรัฐ-จีนยังมีอยู่
กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้นเพียง 164,000 ตำแหน่ง ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 192,000 ตำแหน่ง หลังจากที่เพิ่มขึ้น 135,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ส่วนอัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 3.9% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2543 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 4.0%
ขณะเดียวกัน ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ย เพิ่มขึ้น 4 เซนต์/ชั่วโมง หรือ 0.15% โดยต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 0.2% จากระดับ 0.3% ในเดือนมี.ค. และเพิ่มขึ้น 2.6% เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 2.7% ในเดือนมี.ค.
ทั้งนี้ ตัวเลขค่าจ้างต่อชั่วโมงนับเป็นข้อมูลที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ
ณ เวลา 22.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีดาวโจนส์ดีดขึ้นแรง อยู่ที่ 24,158 จุด บวก 228 จุด หรือ 0.96% พลิกจากในช่วงเปิดตลาดที่ดัชนีต่ำกว่าระดับ 24,000 จุด ระหว่างวันลงไปลึกถึง 23,778 จุด หรือรูดลงประมาณ 150 จุด หลังจากตัวเลขการจ้างงานออกมาน่าผิดหวัง รวมถึงความวิตกเกี่ยวกับผลการเจรจาการค้าระหว่างเจ้าหน้าที่สหรัฐและจีน
ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของเจ้าหน้าที่เฟดหลายรายในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจ และอัตราเงินเฟ้อ รวมทั้งทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐในปีนี้