ตลาดบอนด์นิ่งไม่รับข่าว “เฟด” ต่างชาติซื้อแค่ 1,900 ล้านบาท

ตลาดตราสารหนี้ไทยไม่ยินดียินร้ายเฟดส่งสัญญาณชะลอการขึ้นดอกเบี้ย อัตราผลตอบแทนเด้งขึ้น เพราะลงไปมาก ส่วนการออกหุ้นกู้ปี 2561 มากถึง 8.79 แสนล้านบาท ทะลุเป้า กระจุกอยู่ที่ไทยเบฟฯ 1.2 แสนล้านบาท และอสังหาฯประมาณ 30% ส่วนปีนี้ตั้งเป้าไว้ที่ 8 แสนล้านบาท

น.ส.อริยา ติรณะประกิจ รองกรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย เปิดเผยว่า กรณีตลาดคาดหวังว่า นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดจะใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายลง ไม่มีผลต่อตลาดตราสารหนี้ไทยในการซื้อขายของวันที่ 7 ม.ค. 2562 นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,976 ล้านบาท จากในสัปดาห์แรกของปีนี้อยู่ที่ 4,000 ล้านบาท

ขณะที่อัตราผลตอบแทนของพันธบัตร อายุ 10 ปี ขยับขึ้นประมาณ 0.08% มาอยู่ที่ 2.48% หลังจากที่ปรับตัวลงมามากก่อนหน้านี้ จากระดับ 2.75% มาอยู่ที่ 2.51% เมื่อสิ้นปีที่ผ่านมา และสิ้นสัปดาห์แรกของปีนี้ยังลงต่อเนื่องมาอยู่ที่ 2.42%

“ตอนนี้การลงทุนในตราสารหนี้วิเคราะห์ยากมาก อัตราผลตอบแทนลดลงอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่ว่าอัตราดอกเบี้ยขึ้นแล้วจะส่งผลดีต่อการซื้อหุ้นกู้และพันธบัตร แต่กลับทิศทาง เพราะตลาดวิเคราะห์เรื่องของการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วเกินไปของเฟด จะไม่เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจ นอกจากนี้สิ่งที่นักลงทุนที่เข้ามาลงทุนในตราสารหนี้จะต้องระวังคือเรื่องสภาพคล่องต่ำ “น.ส.อริยากล่าว

ส่วนการระดมทุนของภาคเอกชน น.ส.อริยา กล่าวว่า ในปี 2561 ที่ผ่านมา ธุรกิจมีการออกหุ้นกู้มูลค่ารวม 8.79 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากในปี 2560 ที่มีทั้งสิ้น 8.27 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 52,000 ล้านบาท คิดเป็นประมาณ 6.28% และสูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ว่าจะไม่เกิน 8 แสนล้านบาท ส่วนในปี 2562 สมาคมฯตั้งเป้าว่าจะมีออกหุ้นกู้มูลค่า 8 แสนล้านบาท

“ในปีที่ผ่านมา หุ้นกู้ที่เสนอขายสูงถึง 8.79 แสนล้านบาท เป็นของบริษัทไทยเบฟมูลค่า 1.2 แสนล้านบาท ในการซื้อกิจการ และในส่วนของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ประมาณ 1 ใน 3 คาดว่าแนวโน้มการออกหุ้นกู้ยังคงมีอย่างต่อเนื่องในปี 2562 “น.ส.อริยากล่าว

อย่างไรก็ตาม การออกเสนอขายหุ้นกู้ของภาคธุรกิจมีส่วนชดเชยความเสี่ยง หรือส่วนต่างอัตราผลตอบแทนของหุ้นกู้จากพันธบัตรรัฐบาล (Credit spread)เฉลี่ย 0.20-0.50%