SAM กอดเรทติ้ง “AA+” ชูบทบาทใหม่ Social AMC แห่งชาติ

HoonSmart.com>>บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท (SAM) รักษาอันดับความน่าเชื่อที่ AA+ ต่อเนื่อง 6 ปี แนวโน้มคงที่ พร้อมชูบทบาทใหม่ Social AMC “บริษัทบริหารสินทรัพย์เพื่อสังคม” ของชาติแห่งเดียว มีบทบาทสำคัญต่อกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) 

นางสาวนารถนารี รัฐปัตย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท (บสส.) หรือ SAM เปิดเผยว่า บริษัท ทริสเรทติ้ง  ได้ประกาศคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของ SAM ที่ระดับ “AA+” ด้วยแนวโน้มเครดิต คงที่”โดย SAM ได้รับการจัดอันดับเครดิตองค์กรที่ระดับ AA+ เป็นปีที่ 6 ติดต่อกัน นับตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา สะท้อนถึงมุมมองที่มีต่อสถานะของ SAM ซึ่งเป็นองค์กรที่เกี่ยวข้องกับภาครัฐ (Government-related Entity – GRE) ที่มีความสำคัญในระดับ “สำคัญมาก” (Very Important)

ทั้งนี้ SAM  มีบทบาทสำคัญต่อกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในการดำเนินนโยบายทางการเงินต่างๆ และมีความสัมพันธ์ (Linkage) กับกองทุนฯ ในระดับ “สูงสุด” (Integral) ซึ่งเป็นระดับสูงที่สุดของการประเมินความสัมพันธ์ โดย SAM มีกองทุนฯ เป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมดและเป็นผู้กำกับดูแล โดยกลยุทธ์การดำเนินงาน ตลอดจนธุรกิจ และการเงิน อยู่ภายใต้การชี้แนะและการกำกับดูแลอย่างใกล้ชิดของคณะผู้แทนจากกองทุนฯ และธปท.และความสำคัญของ SAM จะเพิ่มขึ้นในช่วงที่เกิดวิกฤติทางการเงิน

กองทุนฯ ได้ให้เงินกู้ยืมที่ไม่มีภาระดอกเบี้ยแก่ SAM ตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง โดยมีเงื่อนไขการชำระคืนที่ยืดหยุ่น ตลอดช่วงเวลา 6 ปีที่ผ่านมา SAM ได้ชำระคืนเงินให้แก่กองทุนฯ ปีละจำนวน 1,500 ล้านบาท อัตราการชำระสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสมในกรณีที่จำเป็น ทั้งนี้ ณ สิ้นเดือนธ.ค.2567 SAM มียอดเงินกู้คงค้างอยู่ที่ 2.27 แสนล้านบาท

SAM มีภาระหนี้อยู่ในระดับต่ำและการซื้อหนี้ด้อยคุณภาพใหม่อยู่ในระดับจำกัด โดยภาระหนี้ ประกอบด้วยสินเชื่อจากสถาบันการเงินต่าง ๆ และจากหุ้นกู้ โดย ณ สิ้นเดือนมิ.ย. 2568 มียอดเงินกู้คงค้างจากธนาคารลดลงเหลือ 1,400 ล้านบาทจาก 2,800 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ในขณะที่ยอดคงค้างของหุ้นกู้มีจำนวน 2,500 ล้านบาท

นอกจากนี้ SAM ยังได้รับบทบาทเชิงนโยบายที่เข้มแข็งในการเป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์ของรัฐ ซึ่งมีฐานะเป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์แห่งชาติแห่งเดียวและทำหน้าที่เป็น “บริษัทบริหารสินทรัพย์เพื่อสังคม” ในการช่วยบริหารจัดการสินเชื่อด้อยคุณภาพผ่านกระบวนการปรับโครงสร้างหนี้ระยะยาวอย่างยั่งยืน มากกว่าการมุ่งเน้นกำไรสูงสุด

SAM ในฐานะหน่วยงานสำคัญในการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนจะเข้าซื้อและปรับโครงสร้างสินเชื่อรายย่อยที่ไม่มีหลักประกันซึ่งเป็นหนี้ด้อยคุณภาพที่มีวงเงินคงค้างไม่เกิน 100,000 บาทต่อบัญชี จากธนาคารพาณิชย์และบริษัทย่อย ในโครงการ “ปิดหนี้ไว ไปต่อได้” ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาหนี้เชิงโครงสร้างและช่วยเหลือประชาชนในการแก้ไขหนี้ครัวเรือนให้ลดลง โดยโครงการระยะเริ่มต้นจะครอบคลุมบัญชีสินเชื่อจำนวน 1.6 ล้านบัญชีของลูกหนี้จำนวน 1.2 ล้านราย ซึ่งคิดเป็นยอดหนี้คงค้างจำนวนทั้งสิ้น 4.36 หมื่นล้านบาท ส่วนในระยะต่อไป มาตรการนี้จะขยายรวมไปถึงหนี้ด้อยคุณภาพของสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารด้วย โดยกองทุนฯ จะให้การสนับสนุนเงินทุนเพื่อการซื้อหนี้ด้อยคุณภาพเหล่านี้

ขณะเดียวกัน SAM ยังจะทำหน้าที่เป็นตัวกลางในโครงการ “คลินิกแก้หนี้” ของ ธปท. โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยเหลือบุคคลที่มีสินเชื่อด้อยคุณภาพหลายแหล่งโดยผ่านการรวมหนี้ทั้งหมดให้เป็นสินเชื่อระยะยาวเพียงก้อนเดียวในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลง โดย ณ สิ้นเดือนมิ.ย. 2568 ยอดหนี้สะสมที่โครงการคลินิกแก้หนี้บริหารจัดการอยู่มีจำนวน 1.59 หมื่นล้านบาท และนับตั้งแต่เปิดดำเนินการในปี 2560 ถึงปัจจุบัน สามารถช่วยลูกค้าได้มากกว่า 106,000 ราย หรือ 300,000 บัญชี คิดเป็นภาระหนี้เงินต้นตามสัญญา รวมทั้งสิ้นมากกว่า 22,500 ล้านบาท

นอกเหนือจากการดำเนินโครงการคลินิกแก้หนี้แล้ว SAM ยังมีภารกิจหลักของ SAM ในปรับปรุงโครงสร้างหนี้ หรือ NPLs และจำหน่ายทรัพย์สินรอการขาย หรือ NPAs เพื่อช่วยให้คนไทยมีอสังหาริมทรัพย์มือสอง เพื่อเป็นที่อยู่อาศัย หรือลงทุนในทำเลดีทั่วประเทศ จากข้อมูลล่าสุด ณ สิ้นเดือนต.ค. 2568 พบว่า ตลอดระยะเวลาการดำเนินงาน 25 ปี SAM สามารถช่วยลูกค้าปรับโครงหนี้ NPLs และส่งกลับคืนสู่ระบบเศรษฐกิจไปแล้ว มากกว่า 60,000 ราย คิดเป็นภาระหนี้ รวมทั้งสิ้นมากกว่า 355,000 ล้านบาท และส่งคืนทรัพย์สิน NPAs กลับคืนสู่ระบบเศรษฐกิจไปแล้ว คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้นมากกว่า 62,000 ล้านบาท