ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดัชนีดาวโจนส์ปิดพุ่งกว่า 4.98% แรงซื้อกลุ่มค้าปลีกและพลังงานหนุนหลังราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 8% ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดทำการวัน Boxing Day
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดตลาดวันที่ 25 ธันวาคม 2561 ที่ 22,878.45 จุด เพิ่มขึ้น 1,086.25 จุด หรือ 4.98% เป็นการเพิ่มขึ้นของวันที่สูงสุดหลังวันคริสต์มาสในรอบ 10 ปี นับตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม 2009 ด้วยการนำปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มค้าปลีกที่ยอดขายช่วงเทศกาลเพิ่มขึ้นและจากกลุ่มพลังงานหลังจากราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 8% จากแรงซื้อกลับของนักลงทุนที่มองว่าราคาหุ้นถูกมากเมื่อเทียบกับการเติบโตของผลประกอบการ
แม้ยังไร้ปัจจัยใหม่ แต่ตลาดได้รับแรงหนุนจากที่ Mastercard Spending Pulse เผยยอดขายของค้าปลีกช่วงเทศกาลระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายนถึงวันที่ 24 ธันวาคมเพิ่มขึ้น 5.1% จากระยะเดียวกันของปีก่อนหรือมียอดรวม 850 พันล้านดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์เพิ่มขึ้น 3.96 ดอลลาร์หรือ 8.7% ปิดที่ 46.22 ดอลลาร์ ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์เพิ่มขึ้น 4 ดอลลาร์หรือ 8%ปิดที่ 54.47 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลล์
ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,467.70 จุด เพิ่มขึ้น 116.60 จุด,+4.96 %
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,554.35 จุด เพิ่มขึ้น 361.44 จุด,+5.84 %
ทั้งสองดัชนีเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 10 ปี นับตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม 2009 เช่นกัน
หุ้น Kohl’s เพิ่มขึ้น 10.3% หุ้นไนกี้เพิ่มขึ้น 7.2%
หุ้นกลุ่มพลังงานเพิ่มขึ้นจากราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นกว่า 8% จากที่ร่วงลงไป 6% ช่วงก่อนวันคริสต์มาสโดยหุ้นมาราธอนออยล์เพิ่มขึ้น 11.9% หุ้นเฮสส์เพิ่มขึ้น 11%
หุ้นอเมซอนเพิ่มขึ้น 9.45% หลังจากแจ้งยอดขายช่วงเทศกาลที่เพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์ หุ้นเฟซบุ๊เพิ่มขึ้น 8% หุ้นแอปเปิลเพิ่มขึ้น 7% หุ้นอัลฟาเบทเพิ่มขึ้น 6%
หุ้นธนาคารใหญ่ปรับตัวลดลง โดยหุ้นโกลด์แมนแซคส์ลดลง 2.3% หุ้นเวลล์ฟาร์โกลดลง หุ้นแบงก์อเมริกาลดลง 2.7% หุ้นซิตี้กรุ๊ปลดลง 1.9% หุ้นเจพีมอร์แกนลดลง 2.1%
หุ้นแอปเปิลลดลง 2.6%
ตลาดยุโรปและตลาดปิดทำการเนื่องในวัน Boxing Day