ใครรับผิดชอบ? “แอน” JKN หนี!

HoonSmart.com>>”แอน-จักรพงษ์” ตัดสินใจหอบเงินจํานวนมหาศาลหนีไปกบดานที่เม็กซิโก มีคดีติดตัวอยู่หลายคดี ถูกสำนักงานก.ล.ต.ลงโทษทั้งทางแพ่งและอาญา อยู่ระหว่างการต่อสู้คดีแต่งบัญชี สร้างเจ้าหนี้และลูกหนี้ปลอม ทำให้งบการเงินปี 2566 และไตรมาส 1/2567 เป็นเท็จ ซึ่งก.ล.ต.มีอำนาจดูแลไม่ให้โยกย้ายทรัพย์สินและหลบหนี ล่าสุดวันนี้ (25 พ.ย.2568 ) ศาลออกหมายจับ “แอน-จักรพงษ์” ไม่มาฟังคำพิพากษา คดีฉ้อโกงหุ้นกู้ JKN 30 ล้านบาท พร้อมปรับนายประกันเต็มจำนวน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (25 พ.ย.2568) ศาลแขวงพระนครใต้ คดีหมายเลขดำที่ อ.1440/2566  ระหว่างนพ.ระวีวัฒน์ มาศฉมาดล หรือ “หมอเส” ผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ (MASTER) สถานเสริมความงามชื่อดัง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป  (JKN) และ นายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์  หรือ แอน-จักรพงษ์ เป็นจำเลยที่ 1 และ 2 ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกง

คดีนี้โจทก์ยื่นฟ้องโดยระบุพฤติการณ์ว่า ระหว่างวันที่ 24 ก.ค. – 8 ส.ค. 2566 จำเลยทั้งสองได้ร่วมกันหลอกลวงและปกปิดข้อเท็จจริง ชักชวนให้โจทก์ร่วมลงทุนซื้อหุ้นกู้ JKN

โจทก์ระบุว่า จำเลยที่ 2  (แอน) ทราบดีอยู่แล้วว่า สถานะทางการเงินของบริษัท ไม่สามารถชำระหนี้คืนได้ตามกำหนด แต่ยังหลอกลวงจนได้ทรัพย์สินจากโจทก์ไป  30 ล้านบาท ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย จึงฟ้องขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ซึ่งศาลได้ไต่สวนมูลฟ้องและมีคำสั่งประทับรับฟ้องไว้พิจารณา ก่อนจะมีการสืบพยานจนเสร็จสิ้น

วันนัดฟังคำพิพากษาวันนี้ เมื่อถึงเวลาตามกำหนด ปรากฏว่า จักรพงษ์ (จำเลยที่ 2) ไม่ได้เดินทางมาศาลและไม่ได้มีการแจ้งเหตุขัดข้องใด ๆ

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า พฤติการณ์ของ “แอน-จักรพงษ์”  แสดงให้เห็นถึงเจตนาจงใจหลบหนี  มีคำสั่ง

1. ออกหมายจับ: ให้ จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ มาฟังคำพิพากษา

2. สั่งปรับนายประกัน: เนื่องจากไม่สามารถส่งตัวจำเลยได้ตามนัด ถือว่าผิดสัญญาประกัน ศาลสั่งปรับนายประกันเต็มตามวงเงินสัญญา และให้ออกคำบังคับชำระค่าปรับภายใน 15 วัน

ทั้งนี้ ศาลได้กำหนดนัดฟังคำพิพากษาคดีนี้ใหม่อีกครั้ง  วันที่ 26 ธันวาคม 2568 เวลา 09.30 น.

แอน-จักรพงษ์ เคยถูกสำนักงานก.ล.ต. สั่งชำระค่าปรับ 4.12 ล้านบาท และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนเป็นเวลา 56 เดือน กรณีให้ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับการขายธุรกิจองค์กรนางงามจักรวาล (Miss Universe Organization: MUO) ให้แก่นายราอูล โรชา เศรษฐีชาวเม็กซิกัน ซึ่ง JKN ชี้แจงว่าได้มีการดำเนินการหาและติดต่อนักลงทุนหลากหลายราย  จึงยังไม่ได้ข้อสรุป

แต่ในความเป็นจริงแล้ว ในช่วงเวลานั้น JKN โดย JKN Global Content Pte. Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ JKN ได้ขายหุ้นของ JKN Legacy, Inc. ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ดำเนินธุรกิจองค์กรนางงามจักรวาล และครอบครองลิขสิทธิ์นางงามจักรวาล ให้แก่ Legacy Holding Group USA Inc. จำนวน 50% ของหุ้นทั้งหมด โดยเข้าทำสัญญาซื้อขายเมื่อวันที่ 20 ต.ค.2566 นอกจากนี้ ยังปรากฏข้อมูลว่า Legacy Holding Group USA Inc. มีนายราอูล โรชา เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดังนั้น ข้อความที่ JKN เผยแพร่ดังกล่าวจึงไม่ถูกต้องตรงกับข้อเท็จจริงหรืออาจก่อให้เกิดความสำคัญผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับข้อมูลของ JKN น่าจะทำให้มีผลกระทบต่อการตัดสินใจลงทุนในหุ้น JKN

ที่สำคัญเมื่อเดือนมิ.ย.2568 สำนักงานก.ล.ต. เพิ่งกล่าวโทษ บริษัท JKN ,แอน-จักรพงษ์ และน.ส.พิมพ์อุมา จักราจุฑาธิบดิ์ ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI กรณีร่วมกันกระทำหรือยินยอมให้มีการลงข้อความเท็จ และ/หรือทำบัญชีไม่ครบถ้วน ไม่ถูกต้อง และไม่ตรงต่อความเป็นจริงในงบการเงินประจำปี 2566 และเอกสารบัญชีสำหรับงวดไตรมาส 1 ปี 2567 เพื่อลวงบุคคลใด ๆ และนำส่งหรือเปิดเผยงบการเงินประจำปี 2566 และแบบแสดงรายการข้อมูลประจำปี (แบบ 56-1 One Report) ที่มีงบการเงินเท็จ

การแต่งบัญชีของ JKN ครั้งนี้ ทำให้บริษัทมีหนี้สินมากกว่าทรัพย์สินจนนำไปอ้างเป็นเหตุในการเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการและยังให้เจ้าหนี้การค้าปลอมไปใช้สิทธิออกเสียงเพื่อเลือกผู้ทำแผนฟื้นฟูกิจการของ JKN อีกด้วย

แอน-จักรพงษ์ เดินเกมส์การเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการของ JKN เป็นการตัดตอนไม่ให้เจ้าหนี้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับหนี้สินและทรัพย์สินได้เลย

ผลการดำเนินงานของ JKN ประสบปัญหาขาดทุนอย่างรุนแรง เมื่อปี 2566 มากถึง-2,128 ล้านบาท จึงไม่สามารถชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยของหุ้นกู้รวม 7 ชุด  มูลค่าทั้งสิ้นประมาณ 3,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ หุ้น JKN ยังถูกพักการซื้อขายมานานตามเกณฑ์ และตลาดหลักทรัพย์ยังเพิ่มเหตุเข้าข่ายเพิกถอน กรณีเปิดเผยข้อมูลอันเป็นเท็จ และไม่ส่งงบการเงินไตรมาสที่ 1 ปี 2567 ภายในระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งใกล้จะถูกเพิกถอนออกจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยถาวร สร้างความเสียหายให้กับผู้ถือหุ้นทุกราย

การปล่อยให้ แอน-จักรพงษ์ หลบหนีไปต่างประเทศด้วยเงินมหาศาล แต่ผู้ถือหุ้นกู้และผู้ถือหุ้นจำนวนมากได้รับความเสียหาย สะท้อนถึงการทำงานของสำนักงานก.ล.ต.ที่ล่าช้า และไม่ทันเกมส์ ทั้งๆที่มีอำนาจตามมาตรา 267 แห่ง พ.ร.บ. หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ให้อำนาจคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในการสั่งยึดและอายัดทรัพย์สินของผู้กระทำผิด เพื่อป้องกันไม่ให้ทรัพย์สินถูกย้ายหรือจำหน่ายไปก่อนที่จะมีการพิจารณาคดี ตรงตามวัตถุประสงค์ เพื่อรักษาทรัพย์สินของผู้ที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดให้อยู่ในสภาพเดิม เพื่อประโยชน์ในการดำเนินคดีและเยียวยาความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น

ในกรณีตามวรรคหนึ่งเมื่อมีเหตุอันควรสงสัยว่า บุคคลดังกล่าวจะหลบหนีออกนอกราชอาณาจักร สำนักงานร้องขอให้ศาลอาญามีอำนาจสั่งห้ามมิให้บุคคลนั้นออกนอกราชอาณาจักรไว้ก่อนได้และในกรณีฉุกเฉินที่มีความจำเป็นรีบด่วน ให้คณะกรรมการก.ล.ต. มีคำสั่งห้ามมิให้บุคคลนั้นออกนอกราชอาณาจักรไว้ก่อนเป็นการชั่วคราวได้เป็นเวลาไม่เกินสิบห้าวันจนกว่าศาลอาญาจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น

การปล่อยให้แอน-จักรพงษ์หลบหนีไปต่างประเทศคราวนี้ สะท้อนถึงผลงานของก.ล.ต. และเป็นการซ้ำเติมความเชื่อมั่นของตลาดทุนไทย ที่เจ้าของบริษัทจดทะเบียน”หนีไปเสวยสุข”แล้ว ทิ้งหนี้ก้อนมหึมาไว้ข้างหลัง ถึงวันนี้ศาลออกหมายจับ แอน ให้มาฟังคำพิพากษา คดีฉ้อโกงหุ้นกู้ JKN 30 ล้านบาท คงจะลากตัวกลับมาไทยไม่ง่าย