HoonSmart.com>>บล.ทิสโก้ พบ 6 แบงก์ คาดมาตรการ “ปิดหนี้ไว ไปต่อได้” โอน NPLs ให้ SAM บริหาร 1.6 ล้านบัญชี คาดสินเชื่อรวม 4.36 หมื่นล้านบาท ราคาขายเพียง 2-10% สร้างกำไรให้แบงก์ 1-4 พันล้านบาท เรียกร้องให้คงนโยบายนี้ต่อปี 69 แย้มไตรมาส 4 กำไรเงินลงทุนลดลง เจออัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่สูงขึ้น รัดเข็มขัด รักษาระดับเงินปันผลต่อหุ้น แนะซื้อ KTB เป้า 26 บาท และ TTB มูลค่า 2.20 บาท
บล.ทิสโก้ จัดงาน Banking Corporate Day โดยเชิญธนาคาร 5 แห่งที่ดูแล (BAY, KBANK, KTB, SCB, TTB) และ TISCO (ไม่อยู่ภายใต้การวิเคราะห์) เข้าร่วมงานในการประชุมหารือกันอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับมาตรการหนี้ใหม่ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เรื่อง “ปิดหนี้ไว ไปต่อได้ (CDMF)” ธนาคารต่างๆ กำลังรอรายละเอียดขั้นสุดท้าย แต่ในเบื้องต้นได้แจ้งว่าสินเชื่อที่เข้าเกณฑ์ (สินเชื่อที่กลายเป็น NPLs ก่อนวันที่ 30 ก.ย.2568 โดยมียอดสินเชื่อรวมไม่เกิน 100,000 บาท นับเฉพาะสินเชื่อที่อยู่ภายใต้สำนักงานเครดิตแห่งชาติ) จะถูกโอนไปยังบริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท (SAM) เนื่องจาก AMC มีทรัพยากรที่จำกัด ธนาคารต่างๆ จะช่วยบริหารจัดการ NPLs ที่โอนและรับค่าธรรมเนียมต่างๆ ธนาคารต่างๆ น่าจะเห็นกำไรเพียงครั้งเดียวในไตรมาสที่ขาย NPL (น่าจะเป็นไตรมาสแรกปี 2569) ณ จุดนี้ยังไม่มีธนาคารใดสามารถแบ่งปันความเสี่ยงได้ แต่ทุกธนาคารต่างระบุว่าน่าจะมีสัดส่วนที่น้อยมาก
“เราทราบว่า ธปท. ระบุว่าสินเชื่อที่เข้าเกณฑ์ในระยะแรก (NPL จากธนาคารพาณิชย์และบริษัทในเครือ) มีจำนวน 1.6ล้านบัญชี จากผู้กู้ 1.2 ล้านราย คิดเป็นมูลค่าสินเชื่อรวม 4.36 หมื่นล้านบาท ราคาขายจะอยู่ที่เพียง 2-10% และเชื่อว่ากำไรรวมของภาคธุรกิจจะอยู่ที่ประมาณ 1-4 พันล้านบาท”บล.ทิสโก้ระบุ
ธนาคารทุกแห่งต่างมีความเห็นว่าสภาวะธุรกิจจะยังคงท้าทายในปี 2569 เนื่องจากการเติบโตของสินเชื่อที่ชะลอตัว ความเสี่ยงด้านเครดิตที่สูงขึ้นจากการเติบโตทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอ และส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ที่ลดลงจากวัฏจักรการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
อย่างไรก็ตาม คุณภาพสินทรัพย์ยังคงทรงตัวในไตรมาสที่ 4/2568 แม้ว่าเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 3 จะต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ กำไรจากการลงทุน ซึ่งเป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลักในปี 2568 อาจลดลงท่ามกลางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่สูงขึ้นการควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (OPEX) ยังคงเป็นสิ่งที่ธนาคารทุกแห่งให้ความสำคัญ
ธนาคารทุกแห่งยังได้หารือเกี่ยวกับนโยบายการบริหารเงินทุน โดยทุกแห่งเสนอแนะว่าควรคงนโยบายนี้ไว้ หรืออย่างน้อยก็ให้มากขึ้นในปี 2569 ธนาคารทุกแห่งจะพยายามรักษาระดับเงินปันผลต่อหุ้นไว้ ท่ามกลางความท้าทายในการรักษากำไร
” เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับ KTB และ TTB โดยมูลค่าที่เหมาะสมเท่ากับ 26 และ 2.20 บาท ตามลำดับ”บล.ทิสโก้ระบุ
