SME D Bank “พัฒนาคู่เติมทุน” เสริมเอสเอ็มอี ชูสินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษ 3% คงที่ 3 ปีแรก

HoonSmart.com>>SME D Bank เดินหน้าสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอี  “พัฒนาคู่เติมทุน”  ชูสินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษ 3% คงที่ 3 ปีแรก วงเงินสูงสุด 15 ล้านบาท คาดปี 68 ช่วยเข้าถึงแหล่งทุนกว่า 75,000 ล้านบาท ลงพื้นที่ชื่นชมความสำเร็จ 3 ลูกค้าสมุทรสงคราม ได้แก่ บุญฟู้ดส์, ร้านข้าวใหม่ปลามัน อัมพวา และกระจิบ เบด แอนด์ เบรคฟาสต์

นายพิชิต มิทราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) (SME D Bank ) เปิดเผยว่า SME D Bank สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ พร้อมเคียงข้างผู้ประกอบการตลอดเส้นทางธุรกิจ ภายใต้แนวทาง “พัฒนาคู่เติมทุน” ได้แก่ ด้าน “การเงิน” พาเข้าถึงสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษเพียง 3% ต่อปี คงที่ตลอด 3 ปีแรก ผ่อนชำระนานสูงสุด 10 ปี วงเงินกู้สูงสุด 15 ล้านบาท นำไปเสริมสภาพคล่อง ลงทุน ขยาย หรือปรับปรุงกิจการ

อีกทั้ง “การพัฒนา”  ธุรกิจครบวงจร ผ่านแพลตฟอร์ม DX by SME D Bank (dx.smebank.co.th) ใช้บริการสะดวกสบาย ทุกที่ ทุกเวลา ตลอด 24 ชม.  ช่วยให้กิจการเอสเอ็มอีเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน พร้อมสร้างมูลค่าให้กับเศรษฐกิจท้องถิ่น ก่อให้เกิดการจ้างงาน สร้างรายได้ และสร้างอาชีพให้คนในชุมชนอย่างเป็นรูปธรรม โดยคาดว่าปี 2568 จะสามารถสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เข้าถึงแหล่งทุนรวมกว่า 75,000 ล้านบาท ปลุกพลังเศรษฐกิจไทย สอดรับนโยบาย “Quick Big Win” สูงสุดตั้งแต่ก่อตั้งธนาคารมากว่า 23 ปี

ทั้งนี้ SME D Bank ธนาคารเพื่อเอสเอ็มอีไทย ให้ความสำคัญต่อผู้ประกอบการทุกกลุ่มธุรกิจ โดยเฉพาะจังหวัดสมุทรสงคราม ซึ่งมีความหลากหลายของกิจการ ไม่ว่าจะเป็นโรงงานผลิตขนาดเล็ก ขนาดกลาง ร้านอาหาร โรงแรม จนถึงธุรกิจท่องเที่ยววิถีชุมชน ธนาคารพร้อมทำหน้าที่เป็นกลไกสำคัญ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่นอย่างยั่งยืน สะท้อนจากข้อมูลผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด (GPP) ปี 2565 พบว่าเศรษฐกิจจังหวัดสมุทรสงคราม มีมูลค่า 29,201 ล้านบาท แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของผู้ประกอบการในพื้นที่ และบทบาทของ SME D Bank ที่พร้อมสนับสนุนให้ผู้ประกอบการแข็งแกร่ง ควบคู่กับการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากเติบโต

นอกจากนี้ SME D Bank ยังลงพื้นที่ชื่นชมความสำเร็จของผู้ประกอบการ จังหวัดสมุทรสงคราม  จำนวน 3 ราย ต้นแบบการท่องเที่ยวเมืองรอง ได้แก่ “บริษัท บุญฟู้ดส์ จำกัด” ผู้ผลิตและจำหน่ายลูกอมและขนมอบกรอบ ภายใต้แบรนด์ คูก้า, พาเหรด, ซอฟท์ไลน์ และหนังไก่กรอบชิกกิ้น กระบวนการผลิตตามมาตรฐานสากล “ร้านข้าวใหม่ปลามัน อัมพวา” ร้านอาหารชื่อดังที่ใช้วัตถุดิบคุณภาพดีจากชุมชน โดยมีเอกลักษณ์จากการตกแต่งที่ผสมผสานความทันสมัยเข้ากับเสน่ห์ท้องถิ่น ด้วยการใช้ไม้ไผ่ ใบจาก และเครื่องจักสาน และ “กระจิบ เบด แอนด์ เบรคฟาสต์” โรงแรมและคาเฟ่บรรยากาศอบอุ่น เงียบสงบ รายล้อมด้วยต้นไม้ใหญ่ ให้ความร่มรื่น เหมาะแก่การพักผ่อน

นายฐณัตพล กาญจโนฬาร กรรมการผู้จัดการ บริษัท บุญฟู้ดส์ จำกัด กล่าวว่า ธุรกิจเริ่มต้นจากคุณพ่อที่นำผลผลิตท้องถิ่น เช่น กล้วย มะพร้าวมาแปรรูปเป็นลูกอม ก่อนพัฒนาธุรกิจเข้าสู่การใช้เครื่องจักร เพื่อเพิ่มกำลังการผลิต โดยได้รับการสนับสนุนจาก SME D Bank พาเข้าถึงแหล่งทุน นำไปลงทุนขยายโรงงาน พร้อมปรับปรุงสูตรและกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น จนสามารถผลิตลูกอมด้วยเทคโนโลยีทันสมัย ภายใต้แบรนด์ ลูกอมตราคูก้า ที่โดดเด่นทั้งรสชาติและสโลแกน “อมอร่อย เคี้ยวอร่อย” ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์เป็นที่ยอมรับจากผู้บริโภค ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

สำหรับแผนธุรกิจในอนาคต บริษัทยังคงมุ่งมั่นต่อยอดด้วยการวิจัยและนวัตกรรม ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันต่าง ๆ เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค ทั้งในส่วนบริษัทผลิตเอง รวมถึงการรับจ้างการผลิต ทั้งรูปแบบรับจ้างผลิตสินค้าให้กับแบรนด์อื่น (OEM) และผลิตพร้อมพัฒนาสินค้าให้แบรนด์ของลูกค้า (ODM) เป็นต้น

นายสุทธิลักษณ์ โตกทอง เจ้าของร้านข้าวใหม่ปลามัน อัมพวา กล่าวว่า การเริ่มต้นธุรกิจเกิดจากความตั้งใจอยากกลับมา พัฒนาชุมชนบ้านเกิด จึงเลือกเปิดร้านอาหารเพื่อใช้ศักยภาพของจังหวัดสมุทรสงคราม ซึ่งเป็นแหล่งวัตถุดิบอาหารที่มีเอกลักษณ์ มาสร้างมูลค่าเพิ่ม ทั้งด้านอาหารและการท่องเที่ยวชุมชน โดยเน้นเชื่อมโยงระบบนิเวศควบคู่กับหลักเศรษฐกิจพอเพียง โดยให้ความสำคัญกับการใช้วัตถุดิบท้องถิ่นและการผลิตแบบปลอดสารพิษ เช่น การทำ ชาข้าว, การทำขนมปังจากแป้งข้าว หรือการนำผักชะครามมาแปรรูปเป็นสบู่ รวมถึงสร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ สะท้อนวิถีชุมชน

นอกจากนี้ ยังได้พัฒนาโมเดล “ท่องเที่ยวโลว์คาร์บอน” ใช้ทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่อย่างคุ้มค่า เช่น ลำแพน และลูกตะบูน มาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งเครื่องดื่ม ไอศกรีม งานย้อมผ้า และกระเป๋าจากสีธรรมชาติ เพื่อจำหน่ายให้นักท่องเที่ยว สร้างรายได้หมุนเวียนกลับสู่ชุมชนอย่างยั่งยืน

นายเพชร ศรฤทธิ์ชิงชัย เจ้าของโรงแรม กระจิบ เบด แอนด์ เบรคฟาสต์ กล่าวว่า การเข้ามาทำธุรกิจเกิดจากการได้มาเที่ยว และพักผ่อนที่พื้นที่แห่งนี้ สัมผัสได้ถึงความสงบ สบาย  ทำให้เห็นศักยภาพของสถานที่ จึงตัดสินใจเช่ากิจการโรงแรมต่อ จากเจ้าของเดิม พร้อมต่อยอดเปิดคาเฟ่ด้านหน้า เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ ด้วยความตั้งใจอยากให้ครอบครัวมีธุรกิจร่วมกัน จึงขอซื้อกิจการพร้อมที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง โดยได้รับการสนับสนุนสินเชื่อจาก SME D Bank พร้อมพัฒนาพื้นที่ให้พร้อม รองรับผู้เข้าพักมากยิ่งขึ้น ปัจจุบันมี 9 ห้องพัก รองรับลูกค้ามีทั้งคนไทยและต่างชาติ

“มาตรการของรัฐ ทั้งโครงการคนละครึ่ง ช่วยเพิ่มรายได้ให้ธุรกิจคาเฟ่จากการบริโภคที่มากขึ้น ขณะที่โครงการเที่ยวดีมีคืน ส่งเสริมให้กระจิบ เบด แอนด์ เบรคฟาสต์ เป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวไทยมากขึ้น เห็นได้จากยอดจองที่เพิ่มขึ้น เนื่อง จากเป็นเมืองรอง และสอดคล้องกับช่วงไฮซีซั่นของการท่องเที่ยวไทย” นายเพชร กล่าว

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ต้องการรับการสนับสนุนด้านการเงินและการพัฒนา สามารถแจ้งความประสงค์ได้ ณ สาขา SME D Bank ทั่วประเทศ หรือช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ เช่น LINE Official Account : SME Development Bank  และเว็บไซต์www.smebank.co.th เป็นต้น  สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Call Center 1357