HoonSmart.com>>บีเคไอ โฮลดิ้งส์ รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 3/2568 ลดลง 2% เหลือ 1,147.7 ล้านบาท แม้รายได้จากการลงทุนโต 9.6% แต่ค่าใช้จ่ายประกันภัยสูงขึ้นกดดันผลประกอบการ 9 เดือนหดตัวกว่า 10%
บริษัท บีเคไอ โฮลดิ้งส์ จำกัด (BKIH) รายงานผลประกอบการไตรมาส 3/2568 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2568 โดยมีรายได้จากการประกันภัยจำนวน 7,736.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49.2 ล้านบาท หรือ 0.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการบริการประกันภัยสุทธิอยู่ที่ 6,792.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 219.2 ล้านบาท หรือ 3.3% ส่งผลให้ผลการดำเนินงานการบริการประกันภัยลดลงเหลือ 944.0 ล้านบาท ลดลง 170.0 ล้านบาท หรือ 15.3% จากปีก่อนที่มีจำนวน 1,114.0 ล้านบาท
รายได้จากการลงทุนสุทธิในไตรมาสนี้อยู่ที่ 453.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39.7 ล้านบาท หรือ 9.6% โดยส่วนใหญ่มาจากดอกเบี้ยรับและเงินปันผลรับ อย่างไรก็ตาม เมื่อรวมรายได้อื่นและหักค่าใช้จ่ายอื่น ๆ บริษัทมีกำไรก่อนภาษีจำนวน 1,378.2 ล้านบาท ลดลง 41.1 ล้านบาท หรือ 2.9% เมื่อเทียบกับปีก่อน กำไรสุทธิสำหรับงวด 3 เดือนอยู่ที่ 1,147.7 ล้านบาท หรือหุ้นละ 10.78 บาท ลดลง 23.8 ล้านบาท หรือ 2.0% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,171.5 ล้านบาท หรือหุ้นละ 11.00 บาท
ผลประกอบการรวม 9 เดือน บริษัทมีรายได้จากการประกันภัยรวม 23,472.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 344.7 ล้านบาท หรือ 1.5% ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการบริการประกันภัยสุทธิอยู่ที่ 21,572.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 936.8 ล้านบาท หรือ 4.5% ส่งผลให้ผลการดำเนินงานการบริการประกันภัยลดลงเหลือ 1,900.2 ล้านบาท ลดลง 592.1 ล้านบาท หรือ 23.8% จากปีก่อนที่มีจำนวน 2,492.3 ล้านบาท
รายได้จากการลงทุนสุทธิในรอบ 9 เดือนอยู่ที่ 1,360.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 117.3 ล้านบาท หรือ 9.4% โดยส่วนใหญ่มาจากดอกเบี้ยรับและเงินปันผลรับ แต่เมื่อรวมรายได้อื่นและหักค่าใช้จ่ายอื่น ๆ บริษัทมีกำไรก่อนภาษีจำนวน 3,165.4 ล้านบาท ลดลง 312.5 ล้านบาท หรือ 9.0%
กำไรสุทธิสำหรับงวด 9 เดือนอยู่ที่ 2,697.2 ล้านบาท หรือหุ้นละ 25.34 บาท ลดลง 310.3 ล้านบาท หรือ 10.3% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 3,007.5 ล้านบาท หรือหุ้นละ 28.25 บาท
แม้รายได้จากการลงทุนยังเติบโต แต่ค่าใช้จ่ายบริการประกันภัยที่สูงขึ้นกดดันผลประกอบการ ทำให้กำไรสุทธิทั้งไตรมาสและ 9 เดือนปรับตัวลดลงต่อเนื่อง
ดร.อภิสิทธิ์ อนันตนาถรัตน กรรมการและประธานคณะผู้บริหาร บริษัท บีเคไอ โฮลดิ้งส์ (BKIH) และบริษัท กรุงเทพประกันภัย (BKI) กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาล สำหรับผลประกอบการของไตรมาสที่ 3 ปี 2568 แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 3.75 บาท ในวันที่ 8 ธันวาคม 2568 และเมื่อรวมกับเงินปันผลไตรมาสที่ 1 และไตรมาสที่ 2 เท่ากับจ่ายเงินปันผล 9 เดือนแรกของปี 2568 ให้แก่ผู้ถือหุ้น 11.25 บาทต่อหุ้น
ส่วนของบริษัท กรุงเทพประกันภัย หรือ BKI ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่สร้างรายได้หลักของบีเคไอ โฮลดิ้งส์ (BKIH) ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2568 (ก.ค.-ก.ย.) มีรายได้จากการประกันภัย 7,736.5 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้น 0.6% และมีค่าใช้จ่ายในการบริการประกันภัยสุทธิ 6,792.5 ล้านบาท ส่งผลให้มีผลการดำเนินงานการบริการประกันภัย 944.0 ล้านบาท ลดลง 15.3% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน
สำหรับรายได้จากการลงทุนสุทธิเท่ากับ 444.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.4% โดยเมื่อรวมรายได้อื่นและหักค่าใช้จ่ายอื่นๆ ทำให้มีกำไรก่อนหักค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ 1,370.3 ล้านบาท ลดลง 3.6% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และเมื่อหักค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้แล้ว มีกำไรสุทธิ 1,139.8 ล้านบาท ลดลง 2.9% คิดเป็นกำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน 10.71 บาท
ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนของปี 2568 กรุงเทพประกันภัยมีรายได้จากการประกันภัย 23,472.3 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้น 1.5% และมีรายได้จากการลงทุนสุทธิเท่ากับ 1,338.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.6% โดยเมื่อรวมรายได้อื่นและหักค่าใช้จ่ายทั้งสิ้นแล้ว ทำให้มีกำไรก่อนหักค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ 3,152.9 ล้านบาท ลดลง 9.7% และเมื่อหักค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้แล้ว มีกำไรสุทธิ 2,684.7 ล้านบาท ลดลง 11.1% คิดเป็นกำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน 25.22 บาท