‘สารัชถ์’ รุกซื้อ KTB 130 ล้านหุ้น ใหญ่อันดับ 8 รับปันผล 56 ล้านบ.-เก็บกัลฟ์เพิ่ม 2 ล้านหุ้น 

HoonSmart.com>>ธนาคารกรุงไทย (KTB ) โดดเด่นทั้งผลงาน เงินปันผล มีฐานข้อมูลใหญ่มากของประเทศไทย ดึงดูด”สารัชถ์ รัตนาวะดี” ดอดซื้อหุ้น KTB จำนวน 130 ล้านหุ้น ผงาดถือหุ้นใหญ่อันดับที่  8  รับเงินปันผล  55.90 ล้านบาท จับตาความร่วมมือทางธุรกิจ ‘สารัชถ์’ยังเข้าไปเก็บหุ้นกัลฟ์ฯ (GULF) เพิ่ม 2 ล้านหุ้น ราคาเฉลี่ย 42.25 บาท รวมเป็นเงิน 84.50 ล้านบาท GULF จ่อรับเงินปันผลพิเศษ “เอสพีซีจี” (SPCG) อีก 142 ล้านบาท 

ธนาคารกรุงไทย (KTB)  ปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นวันที่ 12 พ.ย. 2568 ขึ้น XD 11 พ.ย. แจกเงินปันผลระหว่างกาลปี 2568  หุ้นละ 0.43 บาท ปรากฎชื่อ นายสารัชถ์ รัตนาวะดี  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ (GULF)  ถือหุ้นใหญ่อันดับที่ 8 จำนวน 130 ล้านหุ้น สัดส่วน 0.90% ของทุนชำระแล้ว ได้รับเงินปันผลประมาณ 55.90 ล้านบาท

นอกจากนี้ นายสารัชถ์ยังมีการรายงานก.ล.ต.ว่าเมื่อวันที่ 13 พ.ย.2568 ที่ผ่านมา ได้เข้าซื้อหุ้น GULF จำนวน 2 ล้านหุ้น ที่ราคาเฉลี่ย 42.25 บาท รวมเป็นเงิน 84.50 ล้านบาท ทำให้มีหุ้นทั้งสิ้น 4,364.08 ล้านหุ้น สัดส่วน 29.21% ทั้งนี้ ราคาหุ้นกัลฟ์ฯ ปิดที่ 42 บาท และยังคงไหลลงต่อ 0.50 บาท ปิดที่ 41.50 บาท วันที่ 14 พ.ย.2568

ก่อนหน้านี้  GULF ได้เข้าไปซื้อหุ้นธนาคารกสิกรไทย (KBANK) เพิ่มจำนวน  5,399,600 หุ้น คิดเป็น 0.2278% จนส่งผลให้ถือหุ้นใหญ่อันดับที่ 4  แตะระดับ 5.0288% ถือทั้งหมด 119.15 ล้านหุ้น  คาดว่าได้รับเงินปันผลระหว่างกาลหุ้นละ 2 บาท คิดเป็นเงินมากกว่า 200 ล้านบาท

สำหรับพอร์ตของ GULF ยังถือหุ้นใหญ่อันดับที่ 3 ของ บริษัท เอสพีซีจี (SPCG) ผ่าน GULF INTERNATIONAL INVESTMENT (HONG KONG) จำนวน 94.80 ล้านหุ้น สัดส่วน 8.98%  ซึ่งคณะกรรมการ SPCG  เพิ่งมีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลพิเศษงวดที่สาม อัตราหุ้นละ 1.50 บาท ขึ้น XD วันที่ 28 พ.ย.นี้ ซึ่งกัลฟ์ฯจะได้รับเงินปันผลอีก 142.20 ล้านบาท ไม่นับรวมเงินปันผลงวดแรกของปีนี้ที่หุ้นละ 0.70 บาท  เป็นเงิน 66.36 ล้านบาท และเงินปันผลงวดที่สองอีก 0.40 บาท เป็นเงิน 37.92 ล้านบาท รวมเงินปันผลทั้งสามงวดประมาณ 246 ล้านบาท

กัลฟ์ฯได้ขยายอาณาจักรเชิงลึกในธุรกิจพลังงานทั้งในและต่างประเทศ และรุกออกไปในธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน พุ่งเป้าโทรคมนาคมปิดดีลเทคโอเวอร์ บริษัทอินทัช โฮลดิ้ง (INTUCH) ได้หุ้นใหญ่ของบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่รายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และได้ธุรกิจดาวเทียมของบริษัทไทยคม(THCOM) ที่อยู่ในกลุ่ม INTUCH รวมถึงการขยายเข้าสู่ธุรกิจการเงินและการลงทุน ผ่านความร่วมมือของ ADVANC กับธนาคารกรุงไทย และบริษัทปตท.น้ำมันและการค้าปลีก (OR)ในการยื่นเข้ารับใบอนุญาตธนาคารไร้สาขา (Virtual Bank) และเข้าสู่ธุรกิจคริปโทเคอเรนซี่ ที่ร่วมกับ Binance

 

 
 
 
 
 
———————————————————————————————————————————————————–