HoonSmart.com >> นักวิเคราะห์มองบวก หลังสหรัฐฯ ยกเว้นภาษีนำเข้าสินค้าเกษตรกว่า 200 รายการ หนุน COCOCO ผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์แปรรูปจากมะพร้าว รับอานิสงส์ในไตรมาส 4/68

นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานของบริษัท หลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ ออกบทวิเคราะห์ กรณีที่สหรัฐฯ ยกเว้นภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal tariff) สินค้าการเกษตรกว่า 200 รายการ ตั้งแต่วันที่ 13 พ.ย.2568
อาทิ กาแฟ, เนื้อวัว, กล้วย, น้ำส้ม และน้ำมะพร้าว ประกอบด้วยน้ำมะพร้าว, น้ำมะพร้าวผสม, เนื้อมะพร้าวแช่แข็ง, น้ำมันมะพร้าว และมะพร้าวที่เตรียมหรือถนอมไว้ด้วยวิธีอื่น จากความต้องการที่สูงภายในประเทศ ส่งผลให้บริษัทไทยได้ประโยชน์จากการที่ลูกค้าสหรัฐฯ มีต้นทุนถูกลง จึงไม่ต้องต่อราคากับบริษัทไทยมากเท่าก่อนหน้านี้
นักวิเคราะห์ มีมุมมองเป็น “บวก” ต่อบริษัทที่มีรายได้จากการส่งออกสินค้าไปสหรัฐฯ อาทิ COCOCO ที่่ส่งออกทั้งกะทิ และน้ำมะพร้าวไปสหรัฐฯ โดยผู้บริหาร COCOCO กำลังประสานงานกับกรมศุลกากร หากได้รับการยกเว้นภาษี ปัจจัยบวกนี้ ช่วยพยุงกำไรของ COCOCO ใน 4Q25 ซึ่งเป็น Low season
ดร.วรวัฒน์ ชิ้นปิ่นเกลียว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร COCOCO กล่าวว่า ตลาดสหรัฐฯ ถือเป็น ตลาดเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Market) ที่สร้างการเติบโตให้กับบริษัทอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2568 ยอดขายในตลาดสหรัฐฯ ของบริษัท ขยายตัวเพิ่มขึ้นทั้งแบบปีต่อปี (YoY) และ ไตรมาสต่อไตรมาส (QoQ) สะท้อนให้เห็นถึง ความต้องการบริโภคผลิตภัณฑ์จากมะพร้าวที่ยังคงแข็งแกร่ง และ กระแสความนิยมในเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ (Health & Wellness) ที่เติบโตชัดเจนในตลาดอเมริกา
“มาตรการยกเว้นภาษีของสหรัฐฯ ถือเป็นแรงสนับสนุนสำคัญที่ช่วยเสริมการเติบโตของบริษัทในตลาดอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดที่มียอดขายขยายตัวอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว COCOCO จะเดินหน้าขยายตลาดสหรัฐฯ ทั้งในด้านการเพิ่มช่องทางจัดจำหน่าย การสร้างความร่วมมือกับพันธมิตร และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคในภูมิภาคนี้มากยิ่งขึ้น”
สำหรับ โรงงานแห่งใหม่ในประเทศฟิลิปปินส์ ภายใต้ชื่อ NOVOCOCONUT INC. บริษัทฯ ตัดสินใจลงทุนเพิ่มใน Phase 2 เพื่อให้โครงการมีความสมบูรณ์และสามารถรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นในอนาคต โดยการขยายโครงการดังกล่าวส่งผลให้ระยะเวลาเปิดดำเนินการเลื่อนออกจากแผนเดิมเล็กน้อย
โรงงานในฟิลิปปินส์ มีบทบาทสำคัญในการ เสริมศักยภาพการผลิตของกลุ่มบริษัทฯ และ ลดความเสี่ยงด้านห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain Risk) ในระยะยาว ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของ COCOCO ในการเป็น ผู้นำอุตสาหกรรมมะพร้าวระดับโลก ที่เติบโตอย่างยั่งยืนทั้งในมิติของเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคม
