ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดวันศุกร์ 21 ธ.ค. ลดลงกว่า 414 จุด หรือกว่า 1.8% กังวล “ชัตดาวน์” สหรัฐฯ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดตลาดวันที่ 21 ธันวาคม 2561 ที่ 22,445.37 จุด ลดลง 414.23 จุด หรือ 1.81% หลังจากที่ปรับตัวขึ้นไปในชั่วโมงแรกของการซื้อขายจากผู้ว่าธนาคารกลางสาขานิวยอร์ก จอห์น วิลเลียมให้สัมภาษณ์สำนักข่าวซีเอ็นบีซีว่า เฟดอาจจะประเมินนโยบายการเงินและการลดขนาดงบดุลใหม่ในปีหน้าหากเศรษฐกิจชะลอ
แต่การปรับขึ้นของตลาดไม่สามารถต้านทานแรงขายที่เข้ามาต่อเนื่องและส่งผลให้ตลอดทั้งสัปดาห์ดัชนีDJIA ลดลง 6.8% นับว่าเป็นสัปดาห์ที่ตลาดเลวร้ายสุดรอบ 10 ปี ได้หลังจาก นายปีเตอร์ นาวาโร ที่ปรึกษาการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวนิเกอิว่า เป็นการยากที่สหรัฐกับจีนจะบรรลุข้อตกลงการค้าอย่างถาวร
นอกจากนี้นักลงทุนยังวิตกต่อการสั่งปิดหน่วยงานบางส่วนของประธานาธิบดีทรัมป์หลังความขัดแย้งในการจัดทำงบประมาณระหว่างพรรคเดโมแครตกับประธานาธิบดี ทรัมป์ แม้อนุมัติงบประมาณรายจ่ายชั่วคราวแต่ไม่รวมงบ 5 พันล้านดอลลาร์เพื่อการก่อสร้างกำแพงกั้นพรมแดนเม็กซิโกตามที่ประธานาธิบดีทรัมป์ต้องการ
กระทรวงพาณิชย์เผยตัวเลขประมาณการณ์การเติบโตเศรษฐกิจไตรมาส 3 เป็นครั้งที่ 3 ซึ่งเติบโต 3.4% ต่ำกว่า 3.5% ของประมาณการณ์ครั้งที่ 2 และต่ำกว่า 4.2% ของไตรมาส 2
ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,416.62 จุด ลดลง 50.80 จุด, 2.06%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,332.99 จุด ลดลง 195.41 จุด, 2.99 %
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีลดลงต่อเนื่อง โดยหุ้นเฟซบุ๊คลดลง 6.3% หุ้นอเมซอนลดลง 5.7% หุ้นแอปเปิลลดลง 3.8% หุ้นNvidia ลดลง 4% หุ้น AMD ลดลง 5.6%
หุ้นโกลด์แมนแซคส์ลดลง 4.9% หุ้นซิตี้กรุ๊ปลดลง 3.8% หุ้นแบงก์ออฟอเมริกาลดลง 3%