BCPG จัดงบลงทุน 2.2 หมื่นลบ. เป้าปี’71 EBITDA แตะ 7 พันลบ. รุก 3 ธุรกิจใหม่

HoonSmart.com>>บีซีพีจี เดินหน้าต่อยอดธุรกิจผู้ผลิตพลังงานสะอาดสู่โครงสร้างพื้นฐาน Data Center-ระบบจัดการน้ำ-รีไซเคิลแผงโซลาร์ ตั้งเป้า EBITDA แตะ 7,000 ล้านบาทภายในปี 71 เตรียมงบลงทุนกว่า 22,000 ล้านบาทในปี 69-71 มุ่งสู่ SET50 ติดดัชนีความยั่งยืนระดับโลก DJSI ด้านพอร์ตพลังงานสะอาดกว่า 2,000 เมกะวัตต์ในเอเชีย+สหรัฐฯ  ลั่นสร้างกระแสเงินสดมั่นคงตามแนวโน้มโลกมุ่งสู่ความยั่งยืน

นายรวี บุญสินสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี (BCPG) เปิดเผยว่า ตลอดทศวรรษที่ผ่านมา บีซีพีจีได้สร้างรากฐานที่มั่นคงในธุรกิจพลังงานสะอาด สะท้อนผ่านพอร์ตการลงทุนที่กระจายตัวทั้งด้านเทคโนโลยีและภูมิภาค

ปัจจุบันบริษัทฯ ลงทุนในโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม พลังงานน้ำ และก๊าซธรรมชาติ ครอบคลุมประเทศไทย สปป.ลาว เวียดนาม สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) และสหรัฐอเมริกา รวมกำลังการผลิตกว่า 2,000 เมกะวัตต์ (MW) ภายใต้สัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาวกับทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งช่วยสร้างกระแสเงินสดที่มั่นคงและลดความเสี่ยงจากความผันผวนทางตลาด

โครงการสำคัญ ได้แก่ โรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ 4 แห่งในสหรัฐฯ ที่ดำเนินการในตลาด PJM ได้รับค่าความพร้อมจ่ายในระดับสูงต่อเนื่อง

บริษัทฯ ป้องกันความเสี่ยงด้านราคาแก๊สผันผวนด้วยการล็อคราคาซื้อแก๊สที่มาใช้ในการผลิตไฟไว้ 50% ในช่วง 3 ปีข้างหน้า และดูแลโรงไฟฟ้าให้พร้อมผลิตไฟตลอดเวลา เพื่อให้มั่นใจว่ารายได้จะเป็นไปตามคาด

โรงไฟฟ้าพลังน้ำใน สปป.ลาว ที่จำหน่ายไฟฟ้าให้เวียดนามซึ่งมีความต้องการใช้พลังงานสูง รวมถึงโครงการพลังงานลมมอนซูนขนาด 600 เมกะวัตต์ใน สปป.ลาว ซึ่งมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาวกับการไฟฟ้าเวียดนาม และได้เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์เมื่อปลายไตรมาสที่ผ่านมา ต่างเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญให้บริษัทฯ เติบโตอย่างก้าวกระโดด

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้ขยายพอร์ตพลังงานหมุนเวียนผ่านโครงการพลังงานลมในเวียดนาม 2 โครงการ รวมกำลังการผลิต 99 เมกะวัตต์ และโครงการพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคา (Private PPA) ในประเทศไทย ซึ่งภายในปีนี้จะมีกำลังผลิตรวม 43.6 เมกะวัตต์ เติบโตกว่าเท่าตัว และมีเป้าหมายขยายไปถึง 100 เมกะวัตต์

ตลอดจนขยายการพัฒนาโรงไฟฟ้าในไต้หวัน ซึ่งขณะนี้ได้เริ่มก่อสร้างสถานีและสายส่งขนาด 200 เมกะวัตต์ เพื่อรองรับโรงไฟฟ้าในโครงการแล้ว ซึ่งโครงการเหล่านี้จะสามารถสร้างกระแสเงินสดที่มั่นคงเมื่อเริ่มดำเนินการเต็มรูปแบบ สนับสนุนรายได้ระยะยาวและกระจายความเสี่ยงในการดำเนินการ พอร์ตฟอลิโอของบีซีพีจีในปัจจุบันจึงมีความพร้อมและมีศักยภาพที่จะเร่งการเติบโตของ EBITDA เป็น 7,000 ล้านบาท ภายในปี 2571

บีซีพีจี พร้อมต่อยอดสู่การบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐานเชิงยุทธศาสตร์ (Critical Infrastructure) ที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจสีเขียวและยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ

ในปี 2569 บริษัทฯ ได้ตั้งงบลงทุนไว้ประมาณ 7,000 ล้านบาท เพื่อเดินหน้าโครงการที่อยู่ในพอร์ตให้แล้วเสร็จตามแผน และมีศักยภาพในการลงทุนเพิ่มเติมในช่วงปี 2570–2571 ไม่น้อยกว่า 15,000 ล้านบาท สำหรับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวเนื่องกับเศรษฐกิจยุคใหม่

“การเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งในด้านรายได้และผลกำไร ประกอบกับพอร์ตสินทรัพย์ที่ขยายสู่ระดับภูมิภาค และฐานรายได้ที่มีความมั่นคงจากสัญญาระยะยาว ทำให้บีซีพีจีมีพื้นฐานทางการเงินที่แข็งแกร่งเพียงพอสำหรับการยกระดับสู่บริษัทขนาดใหญ่ในกลุ่ม SET50 ได้อย่างยั่งยืน โดยมีทั้งอัตราการเติบโตของ EBITDA ที่ชัดเจน กระแสเงินสดสม่ำเสมอ และโครงสร้างธุรกิจที่มีศักยภาพในการต่อยอดสู่ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งจะช่วยเสริมเสถียรภาพและมูลค่าตลาดของบริษัทฯ ในระยะยาว” นายรวี กล่าว

นายรวี กล่าวว่า สำหรับ โครงสร้างพื้นฐานยุทธศาสตร์ บริษัทฯ มุ่งเน้นลงทุนใน 3 ธุรกิจ ได้แก่

1.ศูนย์ข้อมูล (Data Center) เพื่อรองรับการเติบโตของเทคโนโลยีเศรษฐกิจข้อมูล (Data Economy) และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในฐานะผู้ผลิตไฟฟ้าสีเขียว

2.ระบบบริหารจัดการน้ำและน้ำเย็น เพื่อรองรับความต้องการใช้น้ำของ Data Center ที่ต้องการระบบน้ำเพื่อความเย็นอย่างต่อเนื่อง

3.ธุรกิจรีไซเคิล เช่น ธุรกิจรีไซเคิลแผงโซลาร์ (Solar Waste Management) ภายใต้แนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy)

การต่อยอดสู่การบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐานเชิงยุทธศาสตร์ เพื่อสร้างสมดุลระหว่างผลตอบแทนทางธุรกิจและคุณค่าทางสังคม

บริษัทฯ ได้ยึดหลักการพัฒนาอย่างยั่งยืนตามเป้าหมาย SDGs ไม่เพียงเป้าหมายที่ 7: สร้างหลักประกันว่าทุกคนเข้าถึงพลังงานสมัยใหม่ในราคาที่สามารถซื้อหาได้ เชื่อถือได้ และยั่งยืน (Affordable and Clean Energy)

แต่ยังมุ่งสู่เป้าหมายที่ 6: สร้างหลักประกันเรื่องน้ำและการสุขาภิบาล ให้มีการจัดการอย่างยั่งยืนและมีสภาพพร้อมใช้สำหรับทุกคน (Clean Water and Sanitation)

เป้าหมายที่ 9: สร้างโครงสร้างพื้นฐานที่มีความยืดหยุ่นต่อการเปลี่ยนแปลง ส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมที่ครอบคลุมและยั่งยืน และส่งเสริมนวัตกรรม (Industry, Innovation and Infrastructure) และ

เป้าหมายที่ 12: สร้างหลักประกันให้มีแบบแผนการผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน (Responsible Consumption and Production) เพื่อสร้างรากฐานการเติบโตที่ครอบคลุมทั้งมิติสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และสังคม

“นับจากนี้ บีซีพีจีจะไม่หยุดอยู่แค่การผลิตพลังงานสะอาด แต่จะก้าวสู่บทใหม่ของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจสีเขียวของประเทศ และส่งต่อความยั้งยืนให้คนรุ่นต่อไป”นายรวี กล่าว

สำหรับ ผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2568 บริษัทฯ มีกำไรก่อนรายการพิเศษ 711.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 57.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 626.0 ล้านบาท ซึ่งกำไรก่อนรายการพิเศษดังกล่าวถือเป็น “จุดสูงสุดใหม่” ของบริษัทฯ สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของโครงสร้างธุรกิจ และศักยภาพในการบริหารจัดการสินทรัพย์พลังงานในหลายประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ