สหรัฐ “ชัตดาวน์”หน่วยงานภาครัฐบางส่วนตั้งแต่เที่ยงคืน 21 ธ.ค. เซ่นแผน”ทรัมป์”เพิ่มงบประมาณรั้วกั้นชายแดนสหรัฐ-เม็กซิโก 1.8 แสนล้านบาท ทวิตกดดัน”พรรคเดโมแครต”หวังว่าจะกินเวลาไม่นาน
รัฐบาลสหรัฐเข้าสู่ภาวะชัตดาวน์ หรือการปิดหน่วยงานราชการบางส่วนแล้ว ตั้งแต่เที่ยงคืนวันศุกร์ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับช่วงเที่ยงวันที่ 22 ธ.ค. 2561 ตามเวลาไทย หลังจากวุฒิสภาสหรัฐไม่อนุมัติร่างกฎหมายที่บรรจุงบประมาณสำหรับก่อสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโกวงเงินกว่า 5 ,700 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 185,000 ล้านบาท ตามความประสงค์ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 40 ปีที่สหรัฐมีการชัตดาวน์ 3 ครั้งในช่วงเวลาเพียงปีเดียว
นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐแสดงความคิดเห็นบนทวิตเตอร์ส่วนตัว โดยหวังว่าการชัตดาวน์หน่วยงานรัฐบาลครั้งนี้จะกินเวลาไม่นาน
“เราไม่สามารถทำอะไรได้อีกแล้ว เพราะเราจำเป็นต้องได้รับเสียงสนับสนุนจากพรรคเดโมแครต” ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวในคลิปวีดีโอที่เผยแพร่ออกมาทางทวิตเตอร์
ก่อนหน้านี้ สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติด้วยคะแนนเสียง 217 ต่อ 185 เสียง ผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวซึ่งจะช่วยให้หน่วยงานรัฐบาลมีงบประมาณในการดำเนินงานต่อไปจนถึงวันที่ 8 ก.พ.ปีหน้า โดยร่างกฎหมายดังกล่าวได้มีการบรรจุงบประมาณสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโกวงเงินกว่า 5 พันล้านดอลลาร์ ตามที่ปธน.ทรัมป์ ต้องการเอาไว้ด้วย
ร่างกฎหมายที่ผ่านการรับรองจากสภาผู้แทนราษฎรต้องถูกส่งต่อไปให้วุฒิสภาสหรัฐอนุมัติ ก่อนจะส่งให้ปธน.ลงนามเพื่อบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไป
อย่างไรก็ดี วุฒิสภาสหรัฐได้ปฏิเสธที่จะอนุมัติร่างกฎหมายงบประมาณดังกล่าว ส่งผลให้รัฐบาลสหรัฐเข้าสู่ภาวะชัตดาวน์ หรือการปิดหน่วยงานราชการบางส่วน ตั้งแต่เที่ยงคืนวันศุกร์ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับช่วงเที่ยงวันนี้ตามเวลาไทย
การ์เดียนระบุว่าผลกระทบจากการชัตดาวน์จะทำให้เจ้าหน้าที่ในสังกัดรัฐบาลกลางราว 800,000 คนไม่ได้รับเงินค่าจ้าง กว่า 380,000 คนต้องหยุดงานเป็นการชั่วคราว และจะมีเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานสำคัญที่ต้องทำหน้าที่โดยไม่ได้รับค่าจ้างในช่วงชัตดาวน์ ได้แก่ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบของสำนักงานรักษาความปลอดภัยด้านการขนส่งแห่งสหรัฐ (ทีเอสเอ) พัศดี เจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) และเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนชายแดน