HoonSmart.com >> SMO แจงดราม่า !! ทายาทเป็นผถห. ใหญ่ ย้ำเป็นการวางรากฐานธุรกิจต่อยอดการเติบโตในอนาคต ผถห.ใหญ่-ผู้บริหาร Lock Up หุ้น 100%
นายกิตติพงษ์ พวงมาลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กลุ่มสมอทอง (SMO) เปิดเผยว่า การปรากฎชื่อทายาทผู้บริหารเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท เป็นการวางรากฐานของการสานต่อธุรกิจ เพื่อต่อยอดการเติบโตในอนาคต และยังเป็นการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นตั้งใจในการดำเนินธุรกิจ ส่งต่อการบริหารงานให้กับรุ่นต่อไปในอนาคต
รวมถึงเป็นการสร้างความเชื่อมั่นว่า กลุ่มสมอทอง จะยังคงเดินหน้าต่อไปพร้อมทั้งรักษาพันธกิจ และวิสัยทัศน์ ที่ต้องการดำเนินธุรกิจที่เติบโตไปพร้อมกับความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้เสียทั้งหมดจากรุ่นสู่รุ่น ไม่ว่าจะเป็นคู่ค้า นักลงทุน ผู้ถือหุ้น และทุกหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้อง และที่สำคัญที่สุดสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการบริหารงานอย่างมีธรรมาภิบาล โปร่งใส เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต
บริษัทขอยืนยันว่า ครอบครัวของผู้ถือหุ้นหลัก 3 ครอบครัว คือกลุ่ม “พวงมาลา” , กลุ่ม “ลัม” และกลุ่ม “พิริเยศยางกูร” รวมทั้งผู้บริหารทั้งหมดของบริษัท ได้ทำข้อตกลงไม่ขายหลักทรัพย์ทั้งหมดที่ถืออยู่ หรือ Lock Up เต็มจำนวนทั้ง 100% ก่อนที่จะมีการเข้าซื้อขายหุ้น IPO เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนว่าผู้ถือหุ้นใหญ่ และผู้บริหารทุกคนมีความเชื่อมั่นในบริษัท และพร้อมที่จะเดินหน้าขยายธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน และสร้างผลตอบแทนที่เหมาะสมให้กับนักลงทุนในอนาคต
ทั้งนี้กลุ่ม ” พิริเยศยางกูร” , กลุ่ม “ลัม” และกลุ่ม “พวงมาลา” ถือหุ้นเท่ากันหลัง IPO ราว ๆ กลุ่มละ 18% เศษ ซึ่งแต่ละกลุ่มได้กระจายการถือหุ้นให้ทายาท โดยนาย เสกศักดิ์ พิริเยศยางกูร แบ่งให้ลูกถือ ประกอบด้วย
ด.ช. หฤษฎ์ พิริเยศยางกูร ถือหุ้นอันดับ 1 จำนวน 96.39 ล้านหุ้น หรือ 10.48%
น.ส. นลินญาภัสร์ พิริเยศยางกูร 13.76 ล้านหุ้น หรือ 1.5%
ด.ญ. นัณฐ์สภัก พิริเยศยางกูร 12 ล้านหุ้น หรือ 1.30%
ด.ญ. พัชส์ฐภัก พิริเยศยางกูร 12 ล้านหุ้น หริอ 1.30%
นาย จักรา พิริเยศยางกูร 8.29 ล้นหุ้น หรือ 0.90%
และนายเสกศักดิ์ พิริเยศยางกูร ถือ 29.38 ล้านหุ้น หรือ 3.19%