ถึงเวลาเก็บหุ้นโรงพยาบาล! ลงลึก-ปลอดภัย ไตรมาส 4 ฟื้น

HoonSmart.com>>จับจังหวะลงทุน ! นักวิเคราะห์มองเห็นโอกาสจากหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลลงลึกแล้ว ในรอบ 1 เดือน BCH นำดิ่ง ร่วงไป 16%, ฺBDMS ร่วง 7%, PR9 ร่วง 6% หวั่นผลงานไตรมาส 3/68 จะออกมาไม่ดี ช่วง High Season ไม่มาตามนัด เหตุโรคที่มากับฤดูกาลมาช้า ยังคงแนะนำ”ซื้อ” เป็นหุ้นปลอดภัย คาดไตรมาส 4 ฟื้นขึ้นได้ ล่าสุด”ทริส”คงอันดับเครดิต BDMS ที่ AA+ แนวโน้ม“คงที่” สะท้อนสถานะทางการตลาดแข็งแกร่ง

นายวัชรุตม์ วัชรวงศ์สิทธิ์ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า หุ้นในกลุ่มโรงพยาบาลช่วงที่ผ่านมาปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง คาดว่าเป็นผลจากไตรมาส 3/2568 ปกติจะเป็นช่วง High Season ของธุรกิจโรงพยาบาล ซึ่งกำไรจะเติบโตทั้ง YoY และ QoQ แต่ปีนี้ช่วงเดือนก.ค.-ส.ค.โรคที่มากับฤดูกาล เช่น โรคไข้หวัดใหญ่ ได้หดหายไปเหลือแค่ 1 ใน 3 ของปกติ  จึงเห็นสัญญาณไตรมาส 3/2568 อาจไม่ค่อยดีเมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) แต่หากเทียบ QoQ อาจจะยังเติบโตได้ แต่ไม่มากอย่างที่ควรจะเป็น  จำนวนคนไข้ที่ลดลงไป กระทบต่อรายได้ของกลุ่มโรงพยาบาล

” หุ้นโรงพยาบาลดลง โดยเฉพาะ BCH และ BDMS จะเห็นได้ว่าราคาลงไปลึก ตอนนี้ลงมาเทรด P/E แถว 16-19 เท่า จากเดิมที่เคยเทรดกว่า 20 เท่า เพราะกำไรที่คาดว่าจะเติบโตน้อยลง รวมทั้งปี 2568 น่าจะเติบโตได้อย่างน้อย 5-10%”นายวัชรุตม์กล่าว

ส่วน PR9 ปัจจัยพื้นฐานดี มีการบุกตลาดคนไข้ต่างประเทศ  คาดกำไรไตรมาส 3/2568 น่าจะทำนิวไฮได้ แต่ราคาหุ้นปรับตัวลงไปตามกลุ่ม  และ BH กำไรทำนิวไฮเช่นเดียวกัน ซึ่งราคาหุ้นยืนได้ เพราะเรื่องของคนไทยส่งผลกระทบน้อย ลูกค้าคนไข้ส่วนใหญ่เป็นต่างชาติ 70% ผลกระทบจึงจำกัด

BDMS ไตรมาส 3/2568 แนวโน้มดูไม่ดี แต่ไตรมาส 4 ควรจะกลับมาสู่ภาวะปกติ เติบได้เมื่อเทียบ YoY ส่วน QoQ อาจลดตามฤดูกาล

ทั้งนี้ในช่วงเดือนก.ย.-ต.ค. มีโรคไข้หวัดกลับมา ซึ่งเป็นไปตามฤดูกาล จำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นกระโดด  จะช่วยหนุนรายได้ของโรงพยาบาล และคนไข้ต่างชาติ โดยเฉพาะจากกัมพูชา แนวโน้มน่าจะดีกว่าไตรมาส 3 ส่วนคนไข้ชาวพม่าก็ดีขึ้น และคนไข้จากตะวันออกลางเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

ส่วนประกันสังคมโรคซับซ้อน ในปี 2568 คาดว่าจะกลับมาจ่ายได้ปกติ 12,000 บาท/เคส ซึ่งรายได้จะดีกว่าปี 2567 ที่ประกันสังคมจ่ายแค่ 8,000 บาท/เคส น่าจะเป็นบวกต่อหุ้น BCH, CHG ที่คาดว่าจะเติบโตเด่นในไตรมาส 4

อย่างไรก็ดี ชอบสุดคือ PR9 แนะนำ”ซื้อ”ราคาเป้าหมาย 30 บาท กำไรปีนี้เติบโต 16%  และแนวโน้มอีก 2 ปีข้างหน้ายังเติบโตได้ในระดับ 2 หลักประมาณ  11-12% ต่อปี

“หุ้นในกลุ่มโรงพยาบาลที่ปรับตัวลงลึกก็เป็นโอกาสในการซื้อ เพราะกำไรยังเติบโตได้ต่อเนื่อง จากคนไข้ชาวต่างชาติที่เข้ามา ส่วนคนไทยก็เพิ่มขึ้นจากโรคซับซ้อน และคนไข้ประกันสังคมก็เริ่มคลี่คลายในครึ่งหลังปี 2568″นายวัชรุตม์กล่าว

น.ส.วฤณ มหาดำรงค์กุล ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ กล่าวว่า ปกติไตรมาส 3/2568 ที่เป็นช่วง High Season งบกลุ่มโรงพยาบาลจะดีมาก แต่ปีนี้ฝนมาช้า และไตรมาส 3/2567 มีฐานสูง ทำให้ไตรมาส 3 ปีนี้อาจไม่โตดีอย่างที่คาดไว้ ทำให้ราคาหุ้นปรับตัวลงคาดว่าไตรมาส 4/2568 น่าจะฟื้นตัวขึ้น

อย่างไรก็ดี หุ้นในกลุ่มโรงพยาบาลยังเป็นหุ้นปลอดภัยจากการลงทุน โดย BH น่าสนใจ ฐานรายได้คนไข้ชาวต่างชาติสูง ผลงานไตรมาส 3 เติบโตดี แม้คนไข้ชาวคูเวตยังไม่กลับมา แต่ก็มีการหาตลาดอื่นได้ดี แนวโน้มไตรมาส 4 คาดว่ากำไรจะเติบโต YoY จึงแนะนำ”ซื้อ”ราคาเป้าหมาย 205 บาท

ส่วน BDMS ยังคงแนะนำ”ซื้อ”ราคาเป้าหมาย 34.20 บาท ราคาหุ้นลงลึก ผลงานไตรมาส 3/2568 ไม่ดีมาก เพราะปีนี้ฝนมาช้า แต่ไตรมาส 4 ยังคงมองผลงานเป็นบวกได้เมื่อเทียบ YoY

สำหรับหุ้น BCH แนะ”ซื้อเก็งกำไร”ราคาเป้าหมาย 18.80 บาท และ CHG แนะ”ซื้อ”ราคาเป้าหมาย 2.90 บาท ซึ่งการจ่ายเงินของประกันสังคมในปี 2568 ยังไม่มีการปรับลง โดยยังคงจ่าย 12,000 บาท ดีกว่าปี 2567 ที่จ่าย 8,000 บาท พร้อมมองหุ้นในกลุ่มโรงพยาบาลปรับตัวลงลึกแล้ว เป็นโอกาสในการ”ซื้อสะสม” เนื่องจากปัจจุบันเทรด P/E แถว 20 เท่า ถือว่าต่ำเมื่อเทียบกับอดีตที่เทรด 30 เท่า

ด้านบริษัททริสเรทติ้ง คงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) ที่ระดับ “AA+” ด้วยแนวโน้ม  “คงที่” โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งของบริษัทในฐานะผู้ให้บริการด้านสุขภาพภาคเอกชนรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีเครือข่ายโรงพยาบาลขนาดใหญ่และมีแบรนด์โรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับเป็นอย่างดี

นอกจากนี้ อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงผลการดำเนินงานที่ดีและฐานะทางการเงินที่มีงบดุลที่แข็งแกร่ง  อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตก็มีข้อจำกัดจากการแข่งขันที่รุนแรงในอุตสาหกรรมการให้บริการด้านสุขภาพและปัจจัยภายนอกที่ส่งผลกระทบต่อจำนวนผู้ป่วยชาวต่างชาติ

 
 
 
 
 
———————————————————————————————————————————————————–