HoonSmart.com>>”ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก” (OR) แรงดีไม่มีตก ไตรมาส 3/68 กำไร 2,614 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% EBITDA จำนวน 4,878 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.2% ทุกกลุ่มธุรกิจโต Café Amazon ขายได้ 109 ล้านแก้ว เพิ่มขึ้น 2 ล้านแก้วจากไตรมาส 2 รวม 9 เดือนปีนี้ กำไรสุทธิ 9,226 ล้านบาท พุ่งขึ้น 98.4% EBITDA รวม 15,914 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.5% สะท้อนการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ คาดไตรมาส 4 โตต่อเนื่อง มุ่งขับเคลื่อนธุรกิจทุกมิติให้แกร่งอย่างยั่งยืน

บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก (OR) ประกาศผลงานไตรมาสที่ 3/2568 มีกำไรสุทธิ 2,614.26 ล้านบาท กำไรหุ้นละ 0.22 บาท พลิกจากช่วงเดียวกันปีก่อนขาดทุนสุทธิ 1,608.75 ล้านบาท ขาดทุนหุ้นละ 0.13 บาท และดีขึ้น 382 ล้านบาทหรือ 17.1% จากไตรมาสที่ 2/2568 ที่มีกำไรสุทธิ 2,232 ล้านบาท รวม 9 เดือนปีนี้กำไรทั้งสิ้น 9,225.54 ล้านบาท หรือ 0.77 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้นถึง 98.4%จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 4,650.94 ล้านบาท หรือ 0.39 บาทต่อหุ้น
หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก หรือ OR เปิดเผยว่า ในไตรมาส 3/2568 บริษัทฯมีรายได้ขายและบริการ 153,600 ล้านบาท ลดลง 13,566 ล้านบาท หรือลดลง 8.1% จากไตรมาสก่อน มี EBITDA จำนวน 4,878 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 326 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 7.2% โดยเพิ่มขึ้นจากกลุ่มธุรกิจ Mobility ที่กำไรขั้นต้นเฉลี่ยต่อลิตรเพิ่มขึ้น โดยหลักจากดีเซลและเบนซิน
ส่วนกำไรงวด 9 เดือนที่เพิ่มขึ้น 98.4%มาจากรายได้จากการขายและให้บริการ 503,188 ล้านบาท ลดลง 34,866 ล้านบาท หรือลดลง 6.5% ตามราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับลดลง ประกอบกับปริมาณจำหน่ายที่ลดลงเช่นเดียวกัน ส่วนกลุ่มธุรกิจ Global ลดลง 9.2% จากราคาจำหน่ายเฉลี่ยต่อลิตรที่ปรับลดลง แต่ภาพรวมปริมาณจำหน่ายปรับเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในประเทศฟิลิปปินส์ ขณะที่กลุ่มธุรกิจ Lifestyle เพิ่มขึ้น 5.2% จากทั้งธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม และธุรกิจค้าปลีกอื่น ๆ ตามการขยายสาขา และมี EBITDA จำนวน 15,914 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,135 ล้านบาท คิดเป็น 24.5% ในทุกกลุ่มธุรกิจ
กลุ่มธุรกิจ Mobility จากกำไรขั้นต้นเฉลี่ยต่อลิตรที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยหลักจากเบนซินและดีเซล กลุ่มธุรกิจ Lifestyle ปรับเพิ่มขึ้นจากธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม โดยเฉพาะ Café Amazon ในช่วงไตรมาส 3/2568 มีปริมาณจำหน่ายรวม 109 ล้านแก้ว เพิ่มขึ้น 2 ล้านแก้วจากไตรมาสก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 11 ล้านแก้ว หรือ 11.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนกลุ่มธุรกิจ Global เพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยยังคงมีการเติบโตในประเทศ สปป. ที่มีกำไรขั้นต้นเฉลี่ยต่อลิตรสูงขึ้น จึงทำให้ผลประกอบการโดยรวมของกลุ่มธุรกิจต่างประเทศยังคงอยู่ในทิศทางบวก
สำหรับแนวโน้มในไตรมาสที่ 4/ 2568 มีปัจจัยที่อาจส่งผลการดำเนินการของ OR จากภาคการท่องเที่ยวที่แนวโน้มปรับตัวดีขึ้น โดย OR ยังคงมุ่งเน้นการสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจหลัก ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มธุรกิจ Mobility ทั้งในด้านการขายปลีกน้ำมันผ่านสถานีบริการ พีทีที สเตชั่น โดยได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายและประชาสัมพันธ์สร้างความเชื่อมั่นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเพิ่มปริมาณการจำหน่ายน้ำมันอากาศยาน ขณะเดียวกัน OR ยังคงเดินหน้าขยายเครือข่ายสถานีบริการ PTT Station และสถานีชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า EV Station PluZ ซึ่งปัจจุบันเปิดให้บริการแล้วกว่า 1,300 แห่งทั่วประเทศ เพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดที่มีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
ด้านกลุ่มธุรกิจ Lifestyle ปัจจุบันมีเครือข่ายธุรกิจค้าปลีกอาหารและเครื่องดื่ม 4,729 สาขา ไม่ว่าจะเป็น Café Amazon, Pearly Tea และ Pacamara Coffee Roasters โดยเฉพาะ Café Amazon ที่มีเครือข่ายทั้งสิ้น 4,613 สาขา ทั้งในและต่างประเทศ สำหรับร้านค้าปลีกอื่น ๆ เช่น ร้านสะดวกซื้อภายใต้แบรนด์ 7-Eleven และ จิฟฟี่ ในประเทศไทย 2,347 สาขา รวมทั้งร้านค้าปลีกด้านสินค้าสุขภาพและความงามภายใต้แบรนด์ found & found ปัจจุบันมีทั้งสิ้น 12 สาขา ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด พร้อมตั้งเป้าขยายสาขาเป็น 50 สาขาในปี 2569 ซึ่งช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับระบบนิเวศธุรกิจของ OR ในการสร้างประสบการณ์ครบวงจรสำหรับผู้บริโภค
นอกจากนี้ ในกลุ่มธุรกิจ Global แม้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา แต่ยังคงมีการเติบโตในประเทศ สปป. ลาว ในขณะเดียวกันนโยบายการค้าและการลงทุนทั่วโลกที่มีความไม่แน่นอนจากผลของภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ อาจกระทบต่อภาวะตลาดและการตัดสินใจลงทุน ซึ่งเป็นอีกปัจจัยที่ท้าทายและอาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของ OR
“OR ยังคงมุ่งผลักดันกลยุทธ์ดิจิทัลให้เป็นจริงอย่างเป็นรูปธรรม โดยล่าสุดได้ยกระดับแอปพลิเคชัน blueplus+ โฉมใหม่ ซึ่งเป็นศูนย์กลางของ OR’s Ecosystem ด้วยรูปแบบที่ทันสมัย ใช้งานง่าย และจดจำได้ทันที โดยออกแบบโดยยึดผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง ทั้งการใช้งานและคุณค่าที่ได้รับ เช่น ระบบ Café Amazon Rewards ที่สะสมแต้มตามระดับสมาชิกเมื่อซื้อสินค้าหรือเครื่องดื่มที่ ร้าน Cafe Amazon เพื่อแลกรับของรางวัลสุดพิเศษ ฟังก์ชันจาก PTT Station ที่ให้ผู้ใช้ตรวจสอบราคาน้ำมัน ค้นหาสถานีบริการ และซื้อคูปองส่วนลดได้ทันที รวมไปถึง blueplus+ wallet ที่รองรับการชำระเงินแบบไร้เงินสด เป็นต้น ซึ่งจะช่วยยกระดับประสบการณ์ลูกค้า พร้อมต่อยอดสู่การให้บริการเฉพาะบุคคลได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
ล่าสุด OR ได้รับรางวัล Climate Action Excellence ตอกย้ำความเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยสู่อนาคตยั่งยืน สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุล โดย OR ยังคงเดินหน้าพัฒนาและยกระดับศักยภาพขององค์กรในทุกมิติ ทั้งด้านพลังงาน ค้าปลีก และดิจิทัล เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนและสร้างคุณค่าร่วมให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน พร้อมมุ่งมั่นเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืน
