โบรกฯ ส่องหุ้น IDG เคาะเป้าสูงสุด 4.37 บาท

HoonSmart.com >> โบรกฯ ส่องหุ้น IDG ไอพีโอสายเทคฯ  เคาะราคาเป้าหมายสูงสุด 4.37 บาท/หุ้น  รับแผนการระดมทุนเป็นปัจจัยเร่งและเปิดโอกาสการเติบโตในธุรกิจดิจิทัลและ AI ด้านบริษัทตั้งเป้าภายใน 3 ปี รายได้ทะยาน!

บริษัทหลักทรัพย์  3 แห่ง ประกอบด้วย บล.ทรีนีตี้, บล.ยูโอบี เคย์เฮียน และ บล.ไอร่า  ได้วิเคราะห์ราคาเหมาะสมของ IDG ให้ราคาเป้าหมาย สูงสุด ที่ 4.37 บาท/หุ้น

บทวิเคราะห์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย)  ให้ราคาเป้าหมาย 4.30 บาท ระบุ IDG เป็นผู้ประกอบธุรกิจปรึกษาด้าน Digital Transformation และ Digital Platform แบบครบวงจร มีความโดดเด่นและเชี่ยวชาญ

มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยียาวนานกว่า 25 ปี คาด EPS เติบโตเฉลี่ย 17.8% CAGR ในปี 2025-2027 ได้แรงหนุนจากการจำหน่าย และ บริการ Software ของ IDG ช่วยให้ Product Mix ดีขึ้น และคาดว่า IDG จะมีกำไรสุทธิ 17.8% CAGR ใน 2025-2027F

โดยแรงหนุนจาก 1) Product Mix ที่ดีขึ้นจากการจำหน่าย Software โดยคาดว่าจะเติบโต 20.4% CAGR โดยเฉพาะ Platform ของ IDG ซึ่งเราคาดว่าจะมีกำไรขั้นต้นสูง 70% จากการตั้งเป้าการขยายฐานลูกค้าองค์กรในเชิงรุกมากขึ้น (อัตรากำไรขั้นต้นเดิม ราว 80% สำหรับ Platform WORK+, Biz+, Life+ และ 365+ และ Microsoft ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นราว 10%),

2) รายได้จากการให้บริการพัฒนาระบบ Digital ที่คาดว่าจะเติบโต 14.5% CAGR ตามความต้องการของลูกค้า ซึ่งเราเชื่อว่าจะเติบโตตามตลาดธุรกิจ Software และบริการ IT solution

การประเมินราคาเป้าหมายปี 2026 ที่ 4.30 บาท อิง PE valuation โดยใช้ EPS ปี 2026F ที่ 0.23 บาท/หุ้น และ Forward PE ปี 2026F ที่ 18.6 เท่า ใกล้เคียง -1.0 S.D. ของค่าเฉลี่ย Forward PE ของกลุ่มที่ปรึกษาด้าน Digital transformation

บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด  ให้ราคาเหมาะสม 4.37 บาท ระบุ IDG ประมาณการรายได้และกำไรมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง คาดอัตราการเติบโตเฉลี่ยของกำไรปี 2568-2569 (CAGR) ร้อยละ 48 ต่อปี จากยอดขายที่เพิ่มขึ้นโดยบริษัทวางแผนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัทที่พัฒนาขึ้นมาด้วยนวัตกรรม AI ในปี 2569 ประเมินมูลค่าเหมาะสมของบริษัท ณ สิ้นปี 2569 ที่ 4.37 บาท ต่อหุ้น ด้วยวิธี PER ratio ที่ 13 เท่า ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยของ Current Trading PER ของหุ้นที่มีธุรกิจใกล้เคียงกับบริษัท

บทวิเคราะห์ บริษัท หลักทรัพย์ ไอร่า เคาะราคา 3.90 บาท ระบุ กระแสเงินสดที่ได้จาก IPO ในครั้งนี้ IDG จะนำไปใช้ในการวิจัยและพัฒนา โดยการจ้างบุคลากรใหม่ และให้บริการกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ นอกจากนี้จะใช้ในการลงทุนขยายพื้นที่สำนักงานของบริษัท และพัฒนาศูนย์บริการธุรกิจในรูปแบบ Community & Co จัดสถานที่ในรูปแบบ Community Business Showcase ให้คำปรึกษา ให้บริการฝึกอบรม จัดกิจกรรมต่างๆ ด้านดิจิทัลให้กับธุรกิจ ตลอดจนการให้บริการด้านการพัฒนานวัตกรรมและการประยุกต์ใช้ AI ในธุรกิจ

คาดผลการดำเนินงานปี 2568 และ 2569 จะมีกำไรสุทธิ 20 และ 23 ล้านบาท โดยคาดว่ารายได้หลักของ IDG ยังคงมาจากการขายซอฟต์แวร์ และบริการพัฒนาระบบดิจิทัล ในขณะที่คาดว่ารายได้ จากค่าบริการอื่น เช่น การให้บริการให้คำปรึกษาตามความต้องการของลูกค้าในลักษณะ tailor-made มีแนวโน้มจะเติบโตสูงขึ้น

เนื่องจากสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด ประเมินมูลค่าเหมาะสมปี 2569 อยู่ที่ 3.90 บาท อิง EPS ปี 69 และระดับ P/E 15 เท่า ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ย P/E ของบริษัทที่ประกอบธุรกิจใกล้เคียงกัน

สำหรับบริษัท อินดิจี  (IDG)  นำโดยการบริหารของ นายวิธาน ฉั่วเจริญศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดำเนินธุรกิจที่ปรึกษาด้านดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชัน (Digital Transformation) และพัฒนาดิจิทัลแพลตฟอร์ม (Digital Platform) แบบครบวงจร ด้วยการนำเทคโนโลยีล้ำสมัย มาวางโครงสร้างพื้นฐานทางธุรกิจให้กับลูกค้า ภายใต้แนวคิด “Simplify Work, Amplify Innovation”

ธุรกิจหลักแบ่งเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ 1.การจำหน่ายซอฟต์แวร์ 2.การให้บริการพัฒนาระบบดิจิทัลที่พัฒนาขึ้นเอง 3. การให้บริการบำรุงรักษาระบบและซอฟต์แวร์ และ 4.การให้บริการอื่นๆ เช่น การบริการอบรมการใช้งาน Microsoft

ประสบการณ์ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีมายาวนานกว่า 25 ปี พร้อมสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านการทำงานที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพองค์กร และเสริมศักยภาพการแข่งขันทางธุรกิจในยุคดิจิทัล ตอบโจทย์ลูกค้าในหลากหลายอุตสาหกรรม ได้แก่ กลุ่มสถาบันการเงินและธนาคาร กลุ่มการแพทย์ กลุ่มประกันภัย กลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม กลุ่มธุรกิจโรงแรม กลุ่มธุรกิจค้าปลีก กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ กลุ่มธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค กลุ่มภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ และกลุ่มธุรกิจโรงงาน อุตสาหกรรม เป็นต้น เงินระดมทุนสนับสนุนแผนเร่งสปีดการโต ตั้งเป้ารายได้เติบโต 2 เท่า ภายใน 3 ปีข้างหน้า

ทั้งนี้ IDG ได้เสนอขายหุ้นให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 28,000,000 หุ้น หรือคิดเป็น 28% ของทุนหลัง IPO มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาทต่อหุ้น และมีหุ้นเทคฯ น้องใหม่รายนี้เตรียมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ครั้งแรก วันที่ 24 ตุลาคม 2568 ในกลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยี (Technology) ซึ่ง

สรุปราคาเป้าหมาย
บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด 4.37 บาทต่อหุ้น
บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย)  4.30 บาทต่อหุ้น
บริษัท หลักทรัพย์ ไอร่า จำกัด (มหาชน) 3.90 บาทต่อหุ้น