คปภ.คุมประกันรวมบริษัทลูก-ร่วมทุน ปลดล็อคให้ลงทุนได้ทุกธุรกิจ

HoonSmart.com>>คปภ. ปรับเกณฑ์การกำกับประกันภัย เตรียมใช้แบบรวมกลุ่ม Full Consolidation ครอบคลุมบริษัทลูก บริษัทร่วมทุน ถือหุ้นเกิน 20%  ต้องรายงานละเอียด เตรียมประชุมร่วม สศค.-ก.ล.ต.-ธปท ประกันภัย หวังเริ่มใช้บังคับภายในไตรมาส 2 ปี 2569 พร้อมเปิดทางบริษัทลงทุนหลากหลายอุตสาหกรรม เสริมศักยภาพแข่งขัน

สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เดินหน้าจัดทำร่างหลักการกำกับดูแลกลุ่มบริษัทประกันภัยในระดับ Full Consolidation โดยเตรียมเสนอคณะกรรมการ คปภ. ภายในไตรมาส 4 ปี 2568 และคาดว่าจะสามารถออกหลักเกณฑ์บังคับใช้ได้ภายในไตรมาส 2 ปี 2569 พร้อมจัดประชุม Focus Group ร่วมกับบริษัทประกันภัย ,สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และธนาคารแห่งประเทศไทย ( ธปท.) เพื่อรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วน

การกำกับดูแลแบบรวมกลุ่ม (Group-Wide Supervision: GWS) ครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อยกระดับมาตรฐานการกำกับดูแลให้สอดคล้องกับหลักสากล ตามหลัก Insurance Core Principles (ICPs) ข้อ 23
มุ่งเน้นการกำกับดูแล 2 ระดับ ทั้งในระดับ Solo Consolidation ครอบคลุมบริษัทประกันภัยและบริษัทลูกที่ถือหุ้นเกิน 20% ขึ้นไป และ
ระดับ Full Consolidation ครอบคลุมบริษัทแม่สูงสุดและนิติบุคคลที่มีอำนาจควบคุมโดยตรงหรือโดยอ้อม ตั้งแต่ 20% ขึ้นไป หรือบริษัทร่วม หรือบริษัทลูกทุกทอด โดยหากบริษัทแม่สูงสุดเป็นนิติบุคคลต่างประเทศ หรืออยู่ภายใต้ ธปท. ,ก.ล.ต. โดย คปภ. จะกำกับดูแลผ่านรูปแบบหรือเครื่องมือ เช่น Supervisory College เพื่อไม่ให้เกิดการกำกับดูแลที่ซ้ำซ้อนกัน

สำหรับหลักการ GWS จะครอบคลุมมิติสำคัญทั้งในเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ ซึ่งประกอบด้วย
1. ฐานะการเงินในระดับกลุ่ม
2. โครงสร้างการถือหุ้นและคุณสมบัติกรรมการในระดับกลุ่ม
3. การจ่ายเงินปันผลของบริษัทประกันภัย
4. การกำหนดเพดานการลงทุนภายในกลุ่ม
5. การทำประกันภัยต่อภายในกลุ่ม
6. ธุรกรรมระหว่างกันภายในกลุ่ม (Intra-Group Transactions)
7. เงินกองทุนของกลุ่มธุรกิจประกันภัย (Group Capital) และ
8. การบริหารความเสี่ยง การควบคุมภายใน และธรรมาภิบาลในระดับกลุ่ม

สำหรับ หลักเกณฑ์ GWS จะครอบคลุมทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพ ได้แก่ ฐานะการเงินในระดับกลุ่ม, โครงสร้างการถือหุ้น, การจ่ายเงินปันผล, การลงทุนภายในกลุ่ม, การทำประกันภัยต่อ, ธุรกรรมระหว่างกัน, เงินกองทุนของกลุ่ม และการบริหารความเสี่ยงในระดับกลุ่ม พร้อมนิยามใหม่ “หัวหน้ากลุ่มธุรกิจประกันภัย” เพื่อกำหนดบทบาทการกำกับดูแลภายในกลุ่มอย่างชัดเจน

คปภ.ยังได้พิจารณาขยายประเภทการลงทุนประกอบธุรกิจอื่นของบริษัทประกันภัย โดยไม่จำกัดประเภทอุตสาหกรรมที่บริษัทประกันภัยมีอำนาจควบคุมกิจการ ทั้งนี้ ต้องอยู่ภายใต้ธรรมาภิบาลที่ดี และต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข GWS ที่เกี่ยวข้อง ถือเป็นก้าวสำคัญในการเสริมสร้างความโปร่งใส เสถียรภาพ และความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมประกันภัยไทยในระยะยาว