HoonSmart.com >>88TH ปลื้ม ไลฟ์สด 2 วัน โกยยอดขาย 30 ลบ. ดันยอดขาย ต.ค.และไตรมาส 4 ปีนี้ทำทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์

นางสาวนพรัตน์ มาลัยวงค์ ผู้ก่อตั้งและกรรมการ บริษัท 88(ไทยแลนด์) หรือ 88TH เปิดเผยว่า กระแสไลฟ์สด “เจนนี่ ฟีเวอร์” ส่งผลให้บริษัทฯ มียอดขายจากการนำผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ LYO ประกอบด้วย LYO Shampoo แชมพูสระผม , LYO Conditioner ครีมนวด , LYO Hair Tonic เเฮร์โทนิค และแบรนด์ Hone ประกอบด้วย Hone serum , Hone Hybrid Sunscreen SPF 50 ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ “คุณหนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” พาร์ทเนอร์ทางธุรกิจกับแบรนด์ไลโอ และ แบรนด์โฮน เข้าร่วมไลฟ์สดพร้อมปักตะกร้าในไลฟ์ ของ “เจนนี่” 2 วัน โดย 2 วันดังกล่าว ใช้เวลาไลฟ์สดรวมกันเพียง 20 นาที สามารถสร้างยอดขายแตะระดับเกือบ 30 ล้านบาท
ทั้งนี้ 88TH เป็นผู้ผลิตและจำหน่าย ผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพและความงาม 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ปัจจุบันมี 3 แบรนด์หลัก ประกอบด้วย 1.กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและหนังศีรษะแบรนด์ LYO (ไลโอ) 2.กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหนัง แบรนด์ Hone (โฮน) 3.กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางแบรนด์ ver.88 (เวอร์.88)
“ช่วงระหว่างการไลฟ์สด กับ “คุณเจนนี่ ” ทางบริษัทฯ ก็ได้เปิดไลฟ์ Official ของบริษัทฯ ควบคู่ไปด้วย ส่งผลให้ 2 วันดังกล่าว บริษัทฯ มียอดขายจากช่องทาง Official Account ของบริษัทฯ เองประมาณ 2.5 ล้านบาท ซึ่งเป็นการช่วยกระตุ้นยอดขายผลิตภัณฑ์ให้เพิ่มสูงขึ้น โดยคำสั่งซื้อที่เข้ามาทั้งหมดบริษัทฯ จะดำเนินการจัดส่งทั้งหมดภายใน 48 ชั่วโมง”
ทั้งนี้ นอกจากยอดขายสินค้าที่เพิ่มอย่างมีนัยสำคัญแล้ว ยังเป็นการสร้างปรากฏการณ์ใหม่ของเดือนตุลาคม ที่มียอดขายเติบโตทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทฯ มา (Record High) ซึ่งก็จะส่งผลเชิงบวกต่อยอดขายโดยรวมในไตรมาส 4/2568 ที่จะสร้าง Record High ด้วยเช่นเดียวกัน
สำหรับออเดอร์ดังกล่าว นอกจากจะมาจากกระแส “เจนนี่ ฟีเวอร์” แล้ว ยังมาจากช่องทางการขายผลิตภัณฑ์ทางโมเดิร์นเทรด ที่มีคำสั่งซื้อเข้ามาเพิ่มขึ้น ขณะที่ยอดขายในช่องทาง E-Commerce ของบริษัทฯ ก็มีอัตราการเติบโต 2-3 เท่า จากการเปิดอัลกอริทึมที่สร้างการรับรู้เป็นวงกว้างมากขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นการช่วยกระตุ้นยอดขาย ควบคู่กับการสร้างการรับรู้แบรนด์ไปพร้อมๆ กัน
“จากยอดออเดอร์ที่เพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์ ในช่วงเดือนตุลาคม ส่งผลให้กลุ่มบริษัทฯ ต้องขยายไลน์การผลิตในกลุ่มเส้นผมและหนังศีรษะเพิ่มขึ้น 3 เท่าตัวจากปกติ ทั้งผลิตภัณฑ์ไลโอแฮร์โทนิค แชมพู และครีมนวดผม ซึ่งเป็นสินค้าหลักในเรื่องของลดผมร่วง เพื่อรองรับคำสั่งซื้อใหม่ที่จะเข้ามาเพิ่มขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องลงทุนเครื่องจักรและอุปกรณ์เพิ่มเติมเพราะกำลังการผลิตเพียงพอ ทั้งนี้ 88TH มีโรงงานผลิตเอง ซึ่งดำเนินการภายใต้บริษัท ดีโอเค สกิน จำกัด ที่บริษัทฯถือหุ้นในสัดส่วน 99.99% ดังนั้นการที่แบรนด์ LYO มียอดขายเพิ่มขึ้น ก็ส่งผลให้ ดีโอเค สกิน มียอดผลิตเพิ่มขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน ภายใต้กำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น จะส่งผลให้ต้นทุนต่อหน่วยในการผลิตลดลง (Economy of Scale) ซึ่งจะสร้างผลประโยชน์ในเชิงโครงสร้างของการดำเนินธุรกิจ ให้กับทั้ง 2 บริษัทควบคู่กัน”
นางสาวนพรัตน์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ในฐานะผู้ก่อตั้งบริษัทฯ ว่ารู้สึกยินดีที่ได้นำบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ได้สำเร็จ และในเวลาอันรวดเร็วก็เกิดกระแสฟีเวอร์ของแบรนด์ LYO ขึ้นมาอย่างท่วมท้น ยิ่งเป็นการตอกย้ำถึงความสำเร็จของ 88TH เป็นอย่างมากทำให้มองว่า วันนี้ 88TH ประสบความสำเร็จพร้อมกันทั้งในแง่ขององค์กรและของแบรนด์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า “เราสร้างแบรนด์จากศรัทธาในคุณภาพ และวันนี้ผู้บริโภคได้รับรู้สิ่งนั้นจริงๆ” เราเชื่อว่าความสำเร็จนี้ จะเป็นแรงผลักดันให้ทีมงาน 88TH ทุกคน รวมถึงผู้ถือหุ้นได้ภูมิใจ และส่งต่อแบรนด์ไทยให้เติบโตในระดับสากลได้ในอนาคต
