HoonSmart.com>> หุ้น”การบินไทย” (THAI) ” ร่วงต่อ 3 วัน ดิ่ง 22% ฉุดท่าอากาศยานไทย” (AOT) โรงแรมไหลด้วย ครม.วันนี้ยังไม่เคาะมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยว รอครม.เศรษฐกิจนัดแรก 15 ต.ค. เห็นชอบงบกลาง เจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 – กีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 งบประมาณ 455,962,200 บาท หนุนเศรษฐกิจ 5,285 ล้านบาท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดปี 68 นักท่องเที่ยวมาเลเซีย หายไป 7% เหลือ 4.60 ล้านคน ใช้จ่ายลด 8% เหลือ 96,100 ล้านบาท
วันที่ 14 ต.ค. 2568 หุ้นบริษัทการบินไทย (THAI) ทรุดตัวลงแรงติดต่อวันที่สาม ราคาปิดที่ 10.10 บาท ร่วงลง -0.80 บาทหรือ -7.34% ด้วยมูลค่าการซื้อขายประมาณ 1,229.84 ล้านบาท บริษัท ท่าอากาศยานไทย (AOT) ปิดที่ 39.75 บาท ลดลง-1.25 บาทหรือ -3.05% มูลค่าซื้อขาย 1,328.28 ล้านบาท หุ้นบริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) ปิดที่ 22.20 บาท ลดลง 0.90 บาทหรือ-3.90% มูลค่าซื้อขาย 418.91 บาท
ทั้งนี้ หุ้นการบินไทย ทรุดตัวลงแรงอย่างต่อเนื่อง (9-10 และ 14 ต.ค.2568 )จากระดับราคา 12.90 บาท เหลือ 10.10 บาท ร่วงลง 2.80 บาทหรือ 21.71% หลังมีกระแสข่าวกระทรวงการคลังในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่สัดส่วน 38% เสนอชื่อกรรมการ 10 คนเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประมาณเดือนธ.ค.นี้ เพื่อทดแทนกรรมการที่อยู่มานาน 3 ปี และเสนอเพิ่มจำนวนคณะกรรมการจาก 11 คน เป็น 15 คน รวมถึงกระแสการเช่าเครื่องบินมูลค่ามากกว่า 10,000 ล้านบาทไม่ตรงสเปค ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์เรื่องบรรษัทภิบาล ซึ่งความกังวลเรื่องการปรับเปลี่ยนกรรมการลุกลามถึงรัฐวิสาหกิจกระทรวงการคลัง เช่น AOT
นอกจากนี้หุ้นการบินและเกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวยังได้รับผลกระทบจากกรณี นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ (14 ต.ค. 2568) มาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวและเงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย ยังไม่ได้นำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพราะกระทรวงการคลังจะเสนอมาตรการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของ Roadmap ที่กำหนด Action Plan ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในช่วงระยะเวลาการทำงานของรัฐบาลช่วง 4 เดือนนี้ให้ครม.เศรษฐกิจพิจารณาในวันพรุ่งนี้ (15 ต.ค.)
นายสิริพงศ์ กล่าวว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย รวมถึงนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ต้องการเห็นทุกกระทรวงจะทำ Roadmap และ Action Plan ด้วยเช่นกัน
ขณะเดียวกันวันนี้ ครม.มีมติเห็นชอบการขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 พ.ศ.2568 และกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 พ.ศ.2568 วงเงินงบประมาณ 455,962,200 บาท ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ โดยประมาณการมูลค่าทางเศรษฐกิจ จำนวน 5,285 ล้านบาท ส่วนการต่อสัญญาการแข่งขัน Moto GP นั้น ยังไม่มีการนำสู่ที่ประชุมครม.เศรษฐกิจในวันพรุ่งนี้ ทางกระทรวงท่องเที่ยวและการกีฬาจะเป็นผู้พิจารณา
สำหรับงบประมาณกว่า 455 ล้านบาท จะนำไปใช้ ดังนี้
1.ค่าใช้จ่ายพิธีเปิด-ปิดการแข่งขัน และไฟพระฤกษ์ จำนวน 166,282,000 บาท ดังนี้
– จ้างจัดงานพิธีเปิด-พิธีปิดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 พ.ศ.2568 และกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 พ.ศ.2568 จำนวน 147,953,000 บาท
– จ้างจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองวิ่งคบเพลิงไฟพระฤกษ์ในการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 และการแข่งขันกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 จำนวน 14,683,500 บาท
– ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปสำรวจ/เข้าร่วมพิธีเปิด-ปิด/เข้าร่วมงานการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์และอาเซียนพาราเกมส์ฯ/งานพิธีไฟพระฤกษ์ของคณะกรรมการสาขา/คณะทำงาน/เจ้าหน้าที่จำนวน 3,645,500 บาท
2.ค่าใช้จ่ายสาขาการประชาสัมพันธ์ การดำเนินการศูนย์ถ่ายทอดสัญญาณฯ (IBC) จำนวน 30,000,000 บาท
3.ค่าใช้จ่ายในการจัดจ้างดำเนินการจัดหาที่พัก อาหาร ขนส่ง และค่าซักรีด ของนักกีฬาเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และผู้เข้าร่วมการแข่งขันจากต่างประเทศ จำนวน 259,680,200 บาท
ครม.ยังมีมติเห็นชอบกรอบวงเงินงบประมาณสำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในการเป็นเจ้าภาพการจัดการแข่งขันวิ่งมาราธอนในเมืองหลวง (World Capital Marathon Series) รายการ Amazing Thailand Marathon Bangkok ประจำปี 2568-2570 เพื่อเป็นค่าลิขสิทธิ์และค่าภาษีที่เกี่ยวข้องในการจัดการแข่งขัน รวมทั้งสิ้น 264,352,941.15 บาท ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ
สำหรับการจัดงานครั้งนี้ คาดว่าประเทศไทยจะมีรายได้จากการใช้จ่ายเงินจากผู้เข้าร่วมการแข่งขัน ผู้ติดตามและผู้ชมการแข่งขัน ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่จะเดินทางมาร่วมการแข่งขัน ตลอด 3 ปี ไม่น้อยกว่า 3,297 ล้านบาท (ปีละไม่น้อยกว่า 1,099 ล้านบาท) เกิดการว่าจ้างงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ต่าง ๆ อาสาสมัคร นักเรียนและนักศึกษา ที่จะมาปฏิบัติภารกิจต่าง ๆ ตลอด 6 เดือนก่อนการแข่งขัน ตลอด 3 ปี มากกว่า 21,000 อัตรา (ปีละไม่น้อยกว่า 7,000 อัตรา)
ส่วนมูลค่าด้านการประชาสัมพันธ์ตลอดทั้งโครงการที่ประกอบไปด้วยการถ่ายทอดสดการแข่งขันไปทั่วโลก การประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ในทุกแพลตฟอร์มคิดเป็นมูลค่าไม่น้อยกว่า 870 ล้านบาท (ปีละไม่น้อยกว่า 290 ล้านบาท) ครอบคลุมปีละไม่น้อยกว่า 180 ล้านครัวเรือนทั่วโลก (หรือประมาณ 450 ล้านคนต่อปี) คิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจที่คาดว่าประเทศไทยจะได้รับตลอด 3 ปี เป็นจำนวนทั้งสิ้นไม่น้อยกว่า 4,377 ล้านบาท
ทางด้านศูนย์วิจัยกสิกรไทยปี 2568 มองนักท่องเที่ยวมาเลเซียถือเป็นตลาดสำคัญของภาคการท่องเที่ยวไทย แต่หลายปัจจัยลบกระทบคาดปี 2568 ชาวมาเลเซียเที่ยวไทยลดลง 7% จากปีก่อน หรืออยู่ที่ประมาณ 4.60 ล้านคน ขณะที่การใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวคิดเป็นมูลค่า 96,100 ล้านบาท ลดลง 8% จากปีก่อน ประเด็นติดตามสำคัญ คือ การแข่งขันระหว่างประเทศที่สูง ทำให้ไทยเริ่มสูญเสียการตลาด นอกจากนี้ปัจจัยเรื่องความปลอดภัยยังสร้างความกังวลต่อนักท่องเที่ยวมาเลเซีย

