HoonSmart.com>>”เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน”(BWG) ได้รับการปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือขึ้นพรวดเดียวถึง 2 ระดับ จากระดับ ‘BB+’ เป็น ‘BBB’ แนวโน้ม “คงที่”ทริสเรทติ้งมองการเงินแข็งแรง สภาพคล่องสูง หนี้สินลดต่ำลงอย่างมีนัยสำคัญ เสริมสร้างสถานะผู้นำธุรกิจการบริหารจัดการกากอุตสาหกรรมเพื่อความยั่งยืน สะท้อนถึงความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมจากกลยุทธ์ที่เฉียบคม จำหน่ายเงินลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าจากขยะคว้ากำไร 1 เท่าตัวในช่วงระยะเวลาสั้นๆแค่ไม่กี่ปี
บริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน (BWG) ได้รับการปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือขององค์กรขึ้นถึง 2 ระดับ จากระดับ ‘BB+’ เป็น ‘BBB’ พร้อมให้แนวโน้มอันดับเครดิต “คงที่” (Stable) จากบริษัท ทริสเรทติ้ง
การปรับอันดับเครดิตครั้งนี้ เกิดจากสภาพการเงินที่มีความแข็งแรง สภาพคล่องสูง หนี้สินลดต่ำลงอย่างมีนัยสำคัญ เสริมสร้างสถานะผู้นำในธุรกิจการบริหารจัดการกากอุตสาหกรรมเพื่อความยั่งยืน ซึ่งสะท้อนถึงความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมจากกลยุทธ์การบริหารงานที่เฉียบคม
ทริสฯมองว่า การปรับเพิ่มอันดับเครดิตในครั้งนี้ เป็นผลโดยตรงจากการบริหารจัดการกากอุตสาหกรรมได้อย่างยั่งยืน รวมถึงตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ในการจำหน่ายเงินลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าจากขยะ (Waste-to-Energy) เมื่อเดือนกรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยลดภาระหนี้สินของกลุ่มบริษัทลงได้อย่างมีนัยสำคัญ แต่ยังเสริมสร้างสภาพคล่องทางการเงินให้อยู่ในระดับที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้การปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ดังกล่าวส่งผลดีต่อโปรไฟล์ความเสี่ยงของ BWG อย่างชัดเจน โดยบริษัทสามารถหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากการก่อสร้างโครงการและความไม่แน่นอนของกระแสเงินสดในช่วงเริ่มต้นโครงการใหม่ๆ อีกทั้งยังคาดว่ากระแสเงินสดที่ได้รับจากการจำหน่ายเงินลงทุนจะถูกนำไปชำระคืนหนี้ ซึ่งจะไม่เสี่ยงต่อการผิดชำระหุ้นกู้ที่จะถึงในเดือนต.ค.นี้ รวมถึงจะทำให้อัตราส่วนหนี้สินภาพรวมต่อทุนลดลงอย่างมีนัยสำคัญ อีกทั้งการจำหน่ายเงินลงทุนโครงการครั้งนี้ได้กำไรประมาณ1เท่าตัวในช่วงระยะเวลาสั้นๆแค่ไม่กี่ปี จึงปรับเพิ่มอันดับเครดิตให้สูงถึง 2 ระดับ
“ในประเทศไทยมีเพียงไม่กี่บริษัทฯที่จะได้รับการปรับอันดับเครดิตมากถึง 2 ระดับในครั้งเดียว ซึ่งเป็นกรณีที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก”บริษัททริสฯระบุ
ส่วนแนวโน้มอันดับเครดิต “คงที่” ยังบ่งชี้ถึงมุมมองของทริสฯที่คาดว่า BWG จะสามารถรักษากำไรให้สอดคล้องกับประมาณการ โดยมีทิศทางการฟื้นตัวที่ต่อเนื่องจากปี 2567 ทั้งในธุรกิจจัดการกากอุตสาหกรรมและธุรกิจโรงไฟฟ้าได้อย่างแข็งแกร่งและอย่างต่อเนื่อง
น.ส. ณัฐพรรณ เหลืองวิริยะ กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการสายงานพัฒนาธุรกิจและสื่อสารองค์กร BWG เปิดเผยว่า ธุรกิจหลักด้านการบริหารจัดการกากอุตสาหกรรมมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง มีปัจจัยหนุนสำคัญมาจากกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดมากขึ้น ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการหันมาใช้บริการผู้กำจัดของเสียที่มีมาตรฐาน และในปีนี้ BWG ได้ใช้กลยุทธ์การตลาดเชิงรุกมากขึ้น รวมถึงการเปิดสำนักงานสาขาในพื้นที่อุตสาหกรรมสำคัญ เช่น จังหวัดระยอง พระนครศรีอยุธยา และสมุทรสาคร เพื่อขยายฐานลูกค้า
สำหรับธุรกิจไฟฟ้าที่ยังคงดำเนินการอยู่ ยังมีความมั่นคงด้านรายได้จากการมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาวกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.). นอกจากนี้ บริษัทยังมีความได้เปรียบจากการใช้เชื้อเพลิงที่ผลิตได้เองจากธุรกิจจัดการกากอุตสาหกรรมภายในกลุ่ม ทำให้การดำเนินงานของโรงไฟฟ้ามีเสถียรภาพ