เงินเฟ้อเดือนก.ย.ติดลบ 0.72% ปรับเป้าทั้งปีเหลือ 0% โบรกฯชี้หนุนกนง.ลดดอกเบี้ย

HoonSmart.com>> “กระทรวงพาณิชย์” เผยเงินเฟ้อไทยเดือนก.ย. ลดลง 0.72% เหตุราคาพลังงาน “กระแสไฟฟ้า-น้ำมันเชื้อเพลิง” ลดลง ด้านอาหารสดราคาลง ปรับเป้าทั้งปี 68 เหลือ 0% จากเดิม 0.5% หลังเงินเฟ้อ 3 ไตรมาสแรกต่ำกว่าคาด ภาวะเศรษฐกิจยังขยายตัวในระดับต่ำ ยันยังไม่ใช่ภาวะเงินฝืด ด้านโบรกฯ ชี้เงินเฟ้อไทยติดลบต่อเนื่องเดือนที่ 6 หนุน กนง.ลดดอกเบี้ย มองบวกหุ้นธีมดอกเบี้ยขาลง “บล.กรุงศรี” แนะ CPALL, CPAXT, MTC, GULF “หยวนต้า” ชู SAWAD, TIDLOR, MTC, ADVANC, TRUE, CPNREIT, 3BBIF

นายนันทพงษ์ จิระเลิศพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป ของไทยเดือนก.ย.2568 เท่ากับ 100.11 เมื่อเทียบกับเดือนก.ย.2567 ซึ่งเท่ากับ 100.84 ทําให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลง 0.72% (YoY) โดยปัจจัยหลักมาจากราคาสินค้ากลุ่มพลังงานลดลง ทั้งค่ากระแสไฟฟ้าและ น้ำมันเชื้อเพลิงตามนโยบายของภาครัฐ และราคาพลังงานในตลาดโลกที่ปรับตัวลดลง ประกอบกับราคาสินค้าสำคัญ ในกลุ่มอาหารสดยังคงลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะไข่ไก่ ผักสด และผลไม้สด สำหรับราคาสินค้าและบริการอื่น ๆ ส่งผลกระทบต่อภาวะเงินเฟ้อไม่มากนัก

ดัชนีราคาผู้บริโภคเมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมาลดลง 0.03% (MoM) จากการลดลงของราคาสินค้าส าคัญ เช่น ค่ากระแสไฟฟ้า จากการปรับลดค่า Ft ในรอบเดือน ก.ย. – ธ.ค. 68 และของใช้ส่วนบุคคล จากการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดของผู้ประกอบการ เป็นต้น

ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคเมื่อเทียบกับเฉลี่ย 9 เดือน (ม.ค. – ก.ย.) ของปี 2567 ลดลง 0.01% (AoA)

ทั้งนี้ เมื่อหักอาหารสดและพลังงานออกแล้ว อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนสูงขึ้น 0.65% (YoY) ในขณะที่เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ลดลง 0.05%(MoM) และเมื่อเทียบกับเฉลี่ย 9 เดือน (ม.ค. – ก.ย.) ของปี 2567 สูงขึ้น 0.90% (AoA)

สำหรับแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อทั่วไปไตรมาสที่ 4/ 2568 คาดว่าจะอยู่ใกล้ระดับศูนย์ โดยมีปัจจัยสนับสนุนให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลง ได้แก่ (1) ราคาน้ำมันดิบดูไบในตลาดโลกต่ำกว่าปีก่อนหน้าอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากกลุ่มประเทศโอเปกพลัสปรับเพิ่มกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง (2) ภาครัฐได้ดำเนินมาตรการช่วยเหลือลดภาระค่าครองชีพอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการปรับลดค่า Ft งวดเดือนก.ย. – ธ.ค.2568 มาอยู่ที่ 15.72 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้อัตราค่ากระแสไฟฟ้าลดลงเหลือ 3.94 บาทต่อหน่วย (3) ราคาผักสดและผลไม้สดต่ำกว่าปีก่อนหน้าค่อนข้างมาก เป็นผลจากผลผลิตที่เข้าสู่ตลาดจำนวนมาก รวมทั้งฐานของราคาผักสดในปีก่อนหน้าที่อยู่ระดับสูง และ (4) การจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดของผู้ประกอบการรายใหญ่ เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจและการแข่งขันที่สูงขึ้น

สำหรับปัจจัยสนับสนุนให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปรับสูงขึ้น ได้แก่ ราคาสินค้าเกษตรบางชนิดและเครื่องประกอบอาหารมีแนวโน้มสูงกว่าปีก่อน เช่น เนื้อสุกร มะขามเปียก กะทิสำเร็จรูป กาแฟ เกลือป่น และน้ำมันพืช เป็นต้น

นายนันทพงษ์ กล่าวว่า แม้อัตราเงินเฟ้อทั่วไป จะติดลบต่อเนื่องกัน 6 เดือน แต่ไม่ใช่การเข้าสู่ภาวะเงินฝืดแต่อย่างใด เพราะอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (ไม่รวมสินค้ากลุ่มพลังงาน และอาหารสด) ยังคงขยายตัวเป็นบวก ประกอบกับอุปสงค์ในประเทศยังคงมีอยู่ และการจ้างแรงงานไม่ได้ลดลง และแม้ GDP ของประเทศจะขยายตัวได้ต่ำกว่าคาด แต่ก็ยังมีการเติบโตได้ ดังนั้นจึงไม่ใช่สัญญาณของภาวะเงินฝืดแต่อย่างใด

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้ปรับลดคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อทั่วไป ปี 2568 จากเดิมที่อยู่ระหว่าง 0.0 – 1.0% (ค่ากลาง 0.5)% มาอยู่ที่ร้อยละ 0.0% เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อใน 3 ไตรมาสแรกของปี 2568 ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจยังคงขยายตัวในระดับต่ำ ราคาผักสดและผลไม้สดยังต่ำกว่าปีก่อนหน้าค่อนข้างมาก รวมทั้งภาครัฐยังคงดำเนินมาตรการช่วยเหลือลดภาระค่าครองชีพอย่างต่อเนื่อง ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อลดลง

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) มีมุมมองเป็นกลางต่อเงินเฟ้อไทย เนื่องจากโดยหลักแล้วปัจจัยที่ฉุดรั้งเงินเฟ้อมาจากฝั่งอุปทานเป็นหลัก ซึ่งมิได้เป็นสัญญาณบ่งชี้อย่างมีนัยสำคัญต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค อีกทั้ง เงินเฟ้อที่มีแนวโน้มลดลงในระยะต่อไปด้วยปัจจัยทางด้านอุปทานยังมีแนวโน้มเป็นแรงหนุนต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค ขณะที่ Core CPI แม้ชะลอตัวลง แต่เรามองว่าส่วนหนึ่งอาจเป็นการชะลอการบริโภคออกไป เพื่อรอมาตรการสนับสนุนจากภาครัฐ หลังในวันที่ 5 ก.ย.68 รัฐบาลได้เห็นชอบให้คุณอนุทินเป็นนายกฯคนที่ 32 และมีแนวคิดที่จะดำเนินโครงการคนละครึ่งพลัส

บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) เผยเงินเฟ้อไทยที่ติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 สะท้อนโอกาสการปรับลดดอกเบี้ยของ กนง. ที่ยังเปิดกว้าง เป็นปัจจัยบวกเชิง Sentiment ต่อ Yield Play เช่น SAWAD, TIDLOR, MTC, ADVANC, TRUE, CPNREIT, 3BBIF เป็นต้น

ด้านบล.กรุงศรี ประเมินหนุนโอกาส กนง. ลดดอกเบี้ยฯ ราว 0.25%ในการประชุม วันพุธ 8 ต.ค. มองบวกต่อหุ้นในธีมดอกเบี้ยขาลง อาทิ CPALL, CPAXT, MTC, GULF

บล.ฟินันเซีย ไซรัส เงินเฟ้อเดือน ก.ย. ต่ำกว่าคาด โดยเงินเฟ้อทั่วไป -0.72% y-y (ตลาดคาด -0.6% y-y) เงินเฟ้อพื้นฐาน +0.65% y-y (ตลาดคาด +0.76% y-y)

ตัวเลขดังกล่าวยังต่ำกว่ากรอบเป้าหมายของกนง.ที่ 1-3% ทำให้ตลาดอาจคาดหวังต่อการลดดอกเบี้ยในการประชุมกนง.วันพุธนี้

“เราประเมินว่ากนง.จะยังคงอัตราดอกเบี้ยที่ 1.5% ในรอบนี้ก่อนพิจารณาปรับลดในการประชุมนัดสุดท้ายของปีเดือน ธ.ค.”

———————————————————————————————————————————————————–