อิงเกรส อินดัสเตรียลฯ อวดงบไตรมาส 3/61 กำไรสุทธิ 27 ล้านบาท เติบโต 459% เหตุรับรู้รายได้บริษัทในเครือในประเทศอินเดีย หนุนกวาดรายได้รวม 912 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% ด้านบริษัทในมาเลเซียและอินโดนีเซียเติบโตดี บอร์ดอนุมัติปันผล 0.026 บาท ขึ้น XD 2 ม.ค.62
บริษัท อิงเกรส อินดัสเตรียล (ไทยแลนด์) หรือ INGRS แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2561 สิ้นสุดวันที่ 31 ต.ค.2561 มีกำไรสุทธิ 26.63 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.018 บาท เพิ่มขึ้น 459.45% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 4.76 ล้านบาท ส่วนงวด 9 เดือน ปี 2561 กำไรสุทธิ 35.54 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.025 บาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 65.31 ล้านบาท
บริษัทฯ มีรายได้ในไตรมาส 3/2561 จำนวน 912.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 100.15 ล้านบาท หรือ 12.33% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากรับรู้รายได้ของบริษัทในเครือ บริษัท อิงเกรส ออโต้เวนเจอร์ (อินเดีย) จำกัด (IAIPL) จากประเทศอินเดีย ตั้งแต่วันที่ 13 พ.ย.2560 เป็นต้นมา ทำให้รายได้ในไตรมาส 3/2561 เพิ่มขึ้นจำนวน 53.21 ล้านบาทและรายได้รวมของบริษัทในมาเลเซียและอินโดนีเซียเพิ่มขึ้น
คณะกรรมการมีมติให้จ่ายปันผลจากงวดดำเนินงานวันที่ 1 ก.พ. 2561 – 31 ต.ค. 2561 ในอัตราหุ้นละ 0.026 บาท มูลค่าที่ตราไว้ (Par) 1.00 บาท กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date)วันที่ 3 ม.ค. 2562 และขึ้น XD วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล 2 ม.ค. 2562 กำหนดจ่ายเงิน 11 ม.ค.2562 มูลค่ารวมเงินปันผล 37.62 ล้านบาท
นอกจากนี้บริษัทฯ ได้มีการเปลี่ยนแปลงโครงการถือหุ้นของ Ingress Corporation Berhad (ICB) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ INGRS ถือหุ้น 60.02% โดยที่ Ramdawi Sda.Bhd. (RAMDAWI) ซึ่งเดิมเป็นผู้ถือหุ้น ของ ICB และ INGRS ส่งผลให้การทำรายการเสร็จสิ้น RAMDAWI และบุคคลธรรมดาชาวมาเลเซียดังกล่าวถือหุ้นของ ICB คิดเป็น 90.20% และ 9.80% ตามลำดับ
การเปลี่ยนแปลงไม่ส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงอำนาจลงนาม โดยผู้ถือหุ้นที่มีอำนาจควบคุมยังคงเป็น Mr.RAMELI BIN MUSA และ Mr.AB WAHAB BIN ISMAIL ซึ่งยังคงเป็นกรรมการและกรรมการบริหารของบริษัท