BANPU ขายหุ้นกู้ทะลุเป้าปิดยอด 6,500 ลบ. ตอกย้ำความเชื่อมั่นจากนักลงทุน

HoonSmart.com>>”บ้านปู” (BANPU) ปิดดีลขายกู้ชุดใหม่ มูลค่ารวม 6,500 ล้านบาท กระแสตอบรับล้นสูงกว่าเป้าที่ 5,000 ล้านบาท สะท้อนความเชื่อมั่นจากนักลงทุน ถึงความเป็นผู้นำด้านพลังงานที่หลากหลาย ด้วยการดำเนินกลยุทธ์ Energy Symphonics เน้นสมดุลพลังงานโดยผสานธุรกิจพลังงานดั้งเดิมเข้ากับพลังงานสะอาดและเทคโนโลยีพลังงาน พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารพอร์ตโฟลิโออย่างมีความรับผิดชอบและยั่งยืน

สินนท์ ว่องกุศลกิจ

นายสินนท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู (BANPU) กล่าวว่า “บริษัทฯ ขอขอบคุณนักลงทุนทุกกลุ่มที่ให้ความไว้วางใจ รวมถึงกลุ่มผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ที่มีบทบาทในการผลักดันให้การเสนอขายครั้งนี้ประสบความสำเร็จเกินเป้าหมาย จากที่บริษัทฯ ตั้งเป้าไว้ในตอนแรกไม่เกิน 5,000 ล้านบาท ด้วยกระแสตอบรับที่ดี บริษัทฯ จึงได้พิจารณาเพิ่มมูลค่าการออกหุ้นกู้ในครั้งนี้เพิ่มเติม รวมเป็นจำนวนทั้งสิ้นไม่เกิน 6,500 ล้านบาท เพื่อรองรับความต้องการของนักลงทุนทุกกลุ่ม ตอกย้ำถึงความมั่นใจของนักลงทุนที่มีต่อบริษัทฯ ที่มุ่งมั่นเสริมสร้างความสมดุลด้านพลังงานและขับเคลื่อนความยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรมภายใต้กลยุทธ์ Energy Symphonics”

สำหรับหุ้นกู้ที่ออกและเสนอขายให้กับประชาชนเป็นการทั่วไปในครั้งนี้มีจำนวน 3 ชุด ประกอบด้วย หุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.10% ต่อปี หุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.20% ต่อปี และหุ้นกู้ชุดที่ 3 อายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.40% ต่อปี โดยชำระดอกเบี้ยทุก ๆ 6 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้ เสนอขายเมื่อวันที่ 22 – 24 กันยายน ที่ผ่านมา ผ่านสถาบันการเงินชั้นนำทั้ง 7 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) โดยบริษัทฯ และหุ้นกู้ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ
จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2568 ที่ระดับ “A+” ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต “คงที่ (Stable)”

ในปีนี้ บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าปรับโครงสร้างพอร์ตโฟลิโอ พร้อมนำเทคโนโลยีดิจิทัลและ AI มาใช้เพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนในธุรกิจเหมือง รวมทั้งบริหารโครงสร้างเงินทุนอย่างมีประสิทธิภาพให้สอดคล้องกับเป้าหมายระยะยาว โดยในครึ่งแรกของปี 2568 บริษัทฯ มีความคืบหน้าในการสร้างการเติบโตจากสินทรัพย์ที่มีศักยภาพสูง ได้แก่ การขยายธุรกิจก๊าซธรรมชาติและเทคโนโลยีดักจับคาร์บอน (Carbon Capture, Utilization and Sequestration: CCUS) ในสหรัฐอเมริกา การรุกขยายธุรกิจระบบกักเก็บพลังงาน (Battery Energy Storage System) ในออสเตรเลียและญี่ปุ่น และการเข้าสู่อุตสาหกรรมแร่พลังงานแห่งอนาคตด้วยการลงทุนในธุรกิจนิกเกิลในอินโดนีเซีย

นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ใน Fortune Southeast Asia 500 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ซึ่งเป็นการจัดอันดับบริษัทขนาดใหญ่ที่สุด 500 บริษัทในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยนิตยสาร Fortune ซึ่งพิจารณาจากรายได้ประจำปีงบประมาณของปีที่ผ่านมา (2567) สะท้อนถึงมาตรฐานการบริหารธุรกิจในระดับสากล ควบคู่ไปกับความสามารถของบริษัทฯ ในการสร้างกระแสเงินสด ตลอดจนสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงและต่อเนื่อง เพื่อสร้างคุณค่าให้แก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มในระยะยาว