HoonSmart.com>> ขสมก.เปิดร่าง TOR โครงการเช่ารถเมล์แอร์อีวี 1,520 คัน ตั้งราคากลาง 15,355.6 ล้านบาท ครอบคลุมทั้งการเช่ารถเมล์-ซ่อมบำรุง-จัดหาระบบอัดประจุไฟฟ้า สัญญา 7 ปี เปิดประชาพิจารณ์ 19-26 ก.ย.68 กำหนดคุณสมบัติเข้าทาง”เน็กซ์ พอยท์”(NEX) ใช้วัตถุดิบหรือชิ้นส่วนภายในประเทศไม่น้อยกว่า 40% หนุนราคาหุ้นกลุ่มพลังงานบริสุทธิ์ (EA) วิ่งยกแผงต่อเนื่อง รอรับรายได้ก้อนโตจากส่งมอบรถและหัวจ่าย 3 งวด ภายใน 180-360 วัน

เมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2568 องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้ประกาศร่าง TOR โครงการเช่ารถโดยสารประจำทางปรับอากาศพลังงานสะอาด (EV) จำนวน 1,520 คัน โดยกำหนดราคากลางไว้ที่ 15,355.6 ล้านบาท ซึ่งครอบคลุมทั้งการเช่ารถเมล์ การซ่อมบำรุง การจัดหาระบบอัดประจุไฟฟ้า ตลอดอายุสัญญา 7 ปี และเปิดให้สาธารณชนวิจารณ์และเสนอความเห็น ตั้งแต่วันที่ 19-26 ก.ย. 2568
สำหรับคุณสมบัติผู้เข้าร่วมประกวดราคา ต้องเป็นผู้มีผลงานการให้เช่า / เช่าพร้อมซ่อมบำรุงรถ วงเงินไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาทต่อสัญญา เป็นผลงานในสัญญาเดียวเท่านั้น หรือ เป็นผู้มีรายได้จากการหา หรือเช่าพร้อมซ่อมบำรุงรถ หรือประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสาร วงเงินไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาทต่อปี โดยอ้างอิงเอกสารที่ยื่นกับกรมสรรพากร โดยการตัดสิน จะใช้เกณฑ์ “ราคารวมต่ำสุด” เป็นหลัก
สรุป ! สเปกรถโดยคร่าว ๆ รถโดยสารปรับอากาศชั้นเดียว แบบชานต่ำ (Low Floor) สีฟ้า ที่นั่งผู้โดยสารไม่น้อยกว่า 31 ที่นั่ง (รวมเบาะพับไม่น้อยกว่า 2 ที่นั่ง) ใช้วัตถุดิบหรือชิ้นส่วนภายในประเทศไม่น้อยกว่า 40% รวมถึงกำหนดโครงสร้างและช่วงล่าง มอเตอร์และแบตเตอรี่
ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังไม่น้อยกว่า 150 kW ทำความเร็วสูงสุดได้ไม่น้อยกว่า 70 กม./ชม. แบตเตอรี่ลิเธียมเหล็กไอออนฟอสเฟต ความจุไม่น้อยกว่า 250 kW เมื่อชาร์จไฟเต็มสามารถวิ่งระยะทางได้ไม่ต่ำกว่า 200 กม. มีระบบ ECU / ระบบจัดการแบต BMS / ระบบระบายความร้อนแบตเตอรี่ กำหนดประตูและกระจกรถ อุปกรณ์ส่วนควบ ป้ายไฟ LED บอกเลขสาย-เส้นทาง สีเหลือง/ส้ม อุปกรณ์สำหรับคนพิการ
กำหนด ระบบอัดประจุไฟฟ้า และการทดสอบรถ
ส่วนการส่งมอบรถ และติดตั้งตู้ชาร์จไฟแบ่งเป็น 3 งวด ได้แก่
งวดที่ 1 รถจำนวน 500 คัน และหัวจ่ายไม่น้อยกว่า 144 หัว ภายใน 180 วัน
งวดที่ 2 รถอีกจำนวน 500 คัน และหัวจ่ายอีกไม่น้อยกว่า 144 หัว ภายใน 270 วัน
งวดที่ 3 รถอีกจำนวน 520 คัน และหัวจ่ายอีกไม่น้อยกว่า 146 หัว ภายใน 360 วัน
นับถัดจากวันที่ผู้ยื่นข้อเสนอมีหน้าที่เริ่มจัดหารถตามที่ระบุไว้ในหนังสือแจ้ง
อ่านร่าง TOR ฉบับเต็มจากเว็บไซต์ ขสมก.https://www.bmta.co.th/announcement/procurement/881?type=4 (ไฟล์ PDF ตรง) https://www.bmta.co.th/images/procurement/announces/files/20253919-TOR%20%E0%B8%A3%E0%B8%96%20EV.pdf
ร่างของ TOR สร้างความชัดเจนว่า บริษัทคู่แข่งในการประมูลครั้งนี้ คงมีไม่มากราย และเป็นโอกาสของกลุ่มบริษัทพลังงานบริสุทธิ์ (EA) ที่มีความพร้อมมากที่สุด นำโดยบริษัท เน็กซ์ พอยท์ (NEX) ผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ ใช้วัตถุดิบหรือชิ้นส่วนภายในประเทศไม่น้อยกว่า 40% โดย EA และบริษัท อมิตา เทคโนโลยี (ประเทศไทย) หรือ AAB ลงทุนด้านแบตเตอรี่-นวัตกรรมพลังงาน และ EA Anywhere ปูพรมโครงสร้างพื้นฐานด้านตู้ชาร์จไฟฟ้าไปทั่วกรุงเทพแล้ว
“งานนี้ EA ได้ประโยชน์สูงสุดหลายเด้ง จากการส่งบริษัทย่อยคือ บริษัท อีเอ โมบิลิตี โฮลดิง เข้าไปถือหุ้น NEX มากถึง 77% และเมื่อไตรมาสที่ 2 ที่ผ่านมา ได้ซื้อหุ้นเพิ่มทุน ราคาหุ้นละ 1 บาท จึงไม่แปลกใจที่ราคาหุ้นของทั้งกลุ่มปรับตัวขึ้นแรงอย่างต่อเนื่อง รับข่าว ขสมก.จัดประมูลรถเมล์อีวีงวดแรก 1,520 คัน และเตรียมประมูลอีกรอบ จำนวน 1,500 คัน รายได้และกำไรที่จะเข้ามาล็อตใหญ่พลิกฟื้นภาพกลุ่ม EA เทิร์นอะราวด์ครั้งใหญ่ และมีเงินชำระหนี้หุ้นกู้ ได้รับการเพิ่มอันดับเครดิตได้สูงกว่าลงทุนได้ ช่วยลดภาระต้นทุนทางการเงินลงระยะยาว”
ทั้งนี้ บริษัท ทริสเรทติ้ง คงอันดับเครดิตองค์กรของ EA และหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ไว้ที่ระดับ BB+ และกำหนดแนวโน้มอันดับเครดิตเป็น ลบ เนื่องจากสถานะความเสี่ยงทางการเงินที่ถูกกดดันจากกระแสเงินสดลดลงและภาระหนี้ที่สูง
ด้านการซื้อขายหุ้นวันที่ 19 ก.ย. 2568 ราคาหุ้นกลุ่ม EA ปรับตัวขึ้นทั้ง 3 บริษัท โดย NEX ปิดที่ 1.48 บาท บวก 0.11 บาทหรือ +8.03% , BYD ปิดที่ 0.82 บาท เพิ่มขึ้น 0.15 บาท หรือ +22.39% และ EA ปิดที่ 3.60 บาท บวก 0.02 บาท หรือ +0.56%
