กูรู ประเมิน ONSENS ออนเซ็นหัวใจไทย แบรนด์-ธุรกิจเติบโตเหนือตลาด

HoonSmart.com >> โบรกเกอร์ประเมินราคาเหมาะสม  “ออนเซ็น ฯ ” (ONSENS)   ผู้นำออนเซ็น หัวใจไทย สูงสุด 3.40- 2.85  บาท มองศักยภาพ-ผลดำเนินงานเติบโตสูงกว่าอุตสาหกรรม จากการขยายสาขาจากแบรนด์เดิม ” Yunomori” ,  KLAI และ PAK”  

บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรีอยุธยา ออกบทวิเคราะห์หุ้นไอพีโอ บริษัท ออนเซ็น รีทรีต แอนด์ สปา (ONSENS)  ประเมินมูลค่าเหมาะสมหุ้น ONSENS   3.40 บาท อิงการประเมินด้วยวิธี DCF จากการคาดการณ์ผลประกอบการเติบโต การขยายสาขาและแบรนด์ใหม่ในระยะยาว ทั้งจากแบรนด์เดิม Yunomori และ KLAI  ซึ่งการเพิ่มแบรนด์ใหม่ PAK ช่วยขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่  รวมถึงการรับรู้โครงการ Social Wellness Hotel and Spa ทองหล่อที่จะเปิดในปี 2027 ช่วยเพิ่มส่วนแบ่งตลาดให้แก่บริษัท

ONSENS เป็น 1 ในผู้นำธุรกิจสปา มีศักยภาพการเติบโต คาดผลประกอบการเติบโตเฉลี่ย 40% ต่อปี คาดรายได้เติบโตเฉลี่ย 18% ต่อปี  สูงกว่าอุตสาหกรรมที่คาดเติบโต 9% ต่อปี

สำหรับ ONSENS เป็นผู้บุกเบิกออนเซ็น สไตล์ญี่ปุ่นรายแรกของไทย เปิดบริการเมื่อ 13 ปีก่อน ภายใต้แบรนด์ Yunomori Onsen & Spa ปัจจุบันมี 4 สาขา ประกอบด้วย กรุงเทพ 2 , พัทยา 1  และสิงคโปร์ 1 (ร่วมทุนถือหุ้น 49%) , ช่วงปลายปี 2567 เปิดตัวแบรนด์ใหม่ KLAI (คลาย) ให้บริการเดย์สปา นวดแผนไทย จำนวน 1 สาขา  และมีแผนเปิดตัวแบรนด์ใหม่ PAK (พัก) ภายในปีนี้ ในรูปแบบร้านนวดเพื่อสุขภาพ เข้าถึงง่าย ราคาจับต้องได้

บล.โกลเบล็ก ประเมินมูลค่าเหมาะสม 3 บาท สำหรับปี 2569 คาดการณ์รายได้ปีนี้ 280 ล้านบ. ลดลง 3% YoY เนื่องจากคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวปีนี้ชะลอตัวจากปีก่อน 2.8% สู่ 34.5 ล้านคน

คาดปี 2569  รายได้ 317 ล้านบ. เติบโต 13% YoY  และกำไร 43 ล้านบาท เติบโต 55%  YoY เนื่องจากคาดว่านักท่องเที่ยวปี 2569 จะกลับมาเติบโต 4% YoY  สู่ 36 ล้านคน และได้แรงหนุนจากการเปิดสาขาสปา แบรนด์ใหม่อีก  2 สาขารวมเป็น 3 สาขา

อัตรากำไรขั้นต้น ปรับตัวดีขึ้น 1% สู่ 43%  เนื่องจาก Yunomori Onsen  และธุรกิจสปา มีอัตราการใช้บริการเพิ่มขึ้น , ค่าใช้จ่ายการขาย-บริหารคาดปรับตัวขึ้นจาก 72 ล้านบ. สู่  78 ล้านบ. ตามการเพิ่มพนักงาน

บล.บียอนด์ (BYD) ให้มูลค่าเหมาะสม 2.90 บาท แบ่งเป็นมูลค่าหลัก 2.84 บาท และมูลค่าของ JV 0.06 บาท มองแบรนด์ Yunomori  เป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่ง  เป็นสัญญลักษณ์ของออนเซ็นแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมในไทย  , บริการหลากหลายครบวงจร , ทำเลที่ตั้งมีศักยภาพ , กระจายความเสี่ยงลูกค้า ไม่พึ่งพึงรายได้จากกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง

เงินจากการ ไอพีโอ ใช้ลงทุนโครงการ Social Wellness Hotel and Spa ทองหล่อ ครบวงจรคาดเปิดบริการปี 2027 ผลักดันการเติบโตในอนาคต คาดกำไรสุทธิเติบโตเฉลี่ยต่อปี 19% ใน 4 ปีข้างหน้า ช่วงปี 26E – 28E ที่ 42 , 46 และ 66 ล้านบาท ตามลำดับ

บล.ฟินันเซีย ไซรัส (ที่ปรึกษาการเงิน) ประเมินมูลค่าเหมาะสม 3.20 บาท คิดเป็น P/E ปี 2028 เพียง 14.1 เท่า เมื่อเปิดให้ครบทุกโครงการ มองว่าอุตสาหกรรมสปาไทย เป็นส่วนหนึ่งของเมกะเทรนด์ ที่ขยายตัวเร็ว คาดรายได้-กำไรสุทธิเติบโต 15% และ 20% ในช่วงปี 2025E -2028E ตามลำดับ

” จากออนเซ็น สู่แพลตฟอร์ม Social Wellness  เป็นออนเซ็น-สปา แบบ One-Stop ภายใต้แบรนด์ Yunomori และ KLAI เน้นการขยายสาขาถึงปี 2027 จากการพัฒนาโครงการ Social Wellness Hotel & Spa ที่ทองหล่อ เพื่อยกระดับประสบการณ์ ขณะที่แบรนด์หลัก Yunomori และ KLAI เป็นแบรนด์ที่มีเอกลักษณ์ อยู่ในทำเลมีศักยภาพ

ปี 2021 – 2024 รายได้การบริการออนเซ็นและสปา คิดเป็น 80-87% ของรายได้รวม , รายได้อาหาร-เครื่องดื่ม 12-15% และการจำหน่ายสินค้า 1-5%

บล. กรุงไทย เอ็กซ์สปริง (KTX) “ออนเซ็น หัวใจไทย” ให้มูลค่าพื้นฐานปี 2026 ที่ 2.85 บาท แบ่งเป็น 2.50 บาท จากธุรกิจออนเซ็น-สปา , และ 0.35 บาท สำหรับธุรกิจโรงแรม

ONSENS เข้าสู่ช่วงการขยายการลงทุน มุ่งสู่การเปิดตลาดให้กว้างขวางขึ้น รวมถึงโอกาสธุรกิจใหม่ อาทิ โรงแรม ช่วยหนุนกำไรต่อหุ้นเติบโตเฉลี่ย 12.7% /ปี ระหว่างปี 2024-2027

เงินจาก IPO นำไปใช้ลงทุน Yunomori สาขาใหม่ทองหล่อ ซึ่งบริษัทจะมีการร่วมลงทุนธุรกิจโรงแรม เปิดให้บริการในพื้นที่เดียวกัน คาดเปิดบริการกลางปี 2027

” คาดว่า กำไรสุทธิของ ONSENS จะขยายตัวอัตราเฉลี่ย 12.7% ต่อปี ระหว่างปี 2024-2027E (กำไรต่อหุ้น หรือ EPS เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 1.7% ต่อปีในช่วงเวลาเดียวกัน) จากแรงผลักดันการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม ประโยชน์จากขนาดธุรกิจที่ใหญ่ขึ้น และการขยายสาขาของร้านนวด PAK ” บทวิเคราะห์ระบุ

 

 

ทั้งนี้  ONSENS มีทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท ชำระแล้ว 220 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท หรือ 220 ล้านหุ้น  เตรียมไอพีโอ 80 ล้านหุ้น หรือ 16.49% ของทุนชำระแล้วหลัง IPO เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ SET  โดยมีบล.ฟินันเซียไซรัส เป็นที่ปรึกษาการเงินและแกนนำจำหน่ายหุ้น

วัตถุประสงค์ไอพีโอ ลงทุนโครงการ Social Wellness Hotel and Spa ทองหล่อ สำหรับให้บริการออนเซ็น-สปา และพื้นที่เชิงพาณิชย์ , ชำระคืนเงินกู้ และทุนหมุนเวียน

ผลดำเนินงานปี 2565-2567  กำไรสุทธิ 14.77 ล้านบาท , 43.502 ล้านบาท และ 33.29 ล้านบาท ตามลำดับ

โครงสร้างผู้ถือหุ้น ก่อน IPO กลุ่มนายสมิทธิ์ เมฆอรุณกมล 30.54% ,นายไตรรัตน์ ธนารุ่งโรจน์  18.13% , นายวรเวช ไตรกิศเวช 14.50% , นายเพชร คงแสงไชย 13.81% และนายเอกลักษณ์ ดีรุ่งโรจน์ 6.53%