สมาคมค้าทองคำแนะถือทองยาว ราคายังมีลุ้นจากความเสี่ยงโลก

HoonSmart.com>>นายกสมาคมค้าทองคำ แนะนำนักลงทุนพิจารณากลยุทธ์ลงทุนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ มองว่าระยะยาวยังคงมีความน่าสนใจดีกว่าฝากธนาคารช่วงที่เศรษฐกิจเคลื่อนไหวตามนโยบายทรัมป์ ภูมิรัฐศาสตร์โลกยังป่วน บาทแข็งทำทองในไทยถูก

นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทที่แข็งค่าอย่างต่อเนื่องส่งผลให้ราคาทองคำในประเทศลดลง แม้ราคาทองคำโลกจะเพิ่มขึ้น โดยประเมินว่าราคาทองคำในประเทศอยู่ในกรอบประมาณ 50,600 บาทต่อบาททองคำ บวกลบเล็กน้อย

ยกตัวอย่าง เมื่อวันที่ 22 เมษายน ราคาทองคำในตลาดโลกเคลื่อนไหวระหว่าง 3,330–3,496 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือเทียบเป็นราคาภายในประเทศที่ประมาณ 54,800 บาทต่อบาททองคำ

ล่าสุด ราคาทองคำโลกจะขยับขึ้นมาแตะระดับกว่า 3,600 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทองคำในประเทศกลับไม่ขยับสูงขึ้นตาม สาเหตุจากเงินบาทที่แข็งค่า การที่ค่าเงินบาทขึ้นเพียง 10 สตางค์ สามารถกดราคาทองคำในประเทศให้ลดลงได้ถึง 160 บาท

“เงินบาทแข็ง คนก็อยากซื้อ เพราะซื้อทองได้ถูกลง แต่ถ้าเป็นการลงทุนเก็งกำไรระยะสั้นต้องระมัดระวัง เพราะราคาผันผวนสูง” นายจิตติ กล่าว

พฤติกรรมผู้ลงทุน ขายทำกำไรสั้น–ซื้อกลับเมื่อมั่นใจ

นายจิตติ กล่าวว่า พฤติกรรมของนักลงทุนรายย่อยในช่วงราคาทองผันผวน มักจะขายทำกำไรทันทีเมื่อราคาพุ่งขึ้นแรง แต่เมื่อราคายังไต่ระดับต่อเนื่อง นักลงทุนจำนวนหนึ่งจะกลับมาเข้าซื้อใหม่อีกครั้ง สะท้อนถึงแรงซื้อที่ยังคงอยู่ในตลาด

ทั้งนี้ นักลงทุนส่วนใหญ่เลือกเก็งกำไรตามจังหวะ แต่สำหรับผู้ที่มองการลงทุนในระยะยาว ยังสามารถทบอยซื้อทองคำได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงที่เงินบาทแข็งค่า เพราะถือเป็นจังหวะเข้าซื้อทองคำได้ในราคาที่ถูกลง

ปัจจัยโลกหนุนแนวโน้มทองคำยังขาขึ้น

นายจิตติ คาดว่า ราคาทองคำยังคงมีแนวโน้มปรับขึ้นในระยะยาว จากความเสี่ยงทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์โลก ไม่ว่าจะเป็น
1.สงครามรัสเซีย–ยูเครน ที่ยังไม่ยุติ
2.ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง โดยเฉพาะความสัมพันธ์อิสราเอล–อิหร่าน
3.เศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ชะลอตัว และความไม่แน่นอนด้านนโยบายการเงิน
ปัจจัยเหล่านี้ผลักดันให้นักลงทุนทั่วโลกขายดอลลาร์และหันมาถือครองทองคำมากขึ้น
“ทองคำยังเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย คนทั่วโลกขายดอลลาร์เพื่อซื้อทอง เพราะไม่มั่นใจเศรษฐกิจและการเงินโลก” นายจิตติ กล่าว

ลงทุนสั้นต้องระวัง – ยาวยังถือได้

นายจิตติ แนะนำว่า นักลงทุนควรเลือกกลยุทธ์ลงทุนให้เหมาะสมกับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
หากเป็น นักเก็งกำไรระยะสั้น ต้องระมัดระวัง เนื่องจากราคาทองคำยังมีความผันผวนสูง อาจปรับขึ้นหรือลงแรงได้ตามข่าวหรือปัจจัยต่างประเทศ
หากเป็น นักลงทุนระยะยาว ที่มี “เงินเย็น” สามารถทยอยสะสมทองคำได้ เนื่องจากแนวโน้มในอนาคตยังเป็นขาขึ้น และทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ที่รักษามูลค่าได้ดีกว่าการฝากเงินสดในธนาคาร

“ผมอยู่ในวงการค้าทองคำมานานกว่า 70 ปี แต่ก็ยังยืนยันว่าไม่มีใครสามารถคาดการณ์ราคาทองได้อย่างแม่นยำในแต่ละวันหรือแต่ละเดือน สิ่งสำคัญคือนักลงทุนต้องเข้าใจธรรมชาติของทองคำและเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะกับตนเอง”นายจิตติ กล่าว